พี่หมู วิภาพร แซ่ก๊ก เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งค่ะ ที่ตั้งมั่นปฏิบัติในเรื่องของการถือศีลกินเจมาตลอด (ไม่ใช่เพียงครั้งคราว) และอุทิศตัวทำสาธารณะประโยชน์ให้กับสมาคมวิสุทธิคุณ เป็นเวลานานพอสมควรแล้ว พอถึงเทศกาลถือศีลกินเจแบบนี้ เราจึงชวนพี่หมูมานั่งเล่า นั่งคุย แลกเปลี่ยนมุมมองของการถือศีลกินเจกันว่า มีความลึกซึ้ง บริสุทธิ์เพียงไร
. |
พี่หมู วิภาพร แซ่ก๊ก เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งค่ะ ที่ตั้งมั่นปฏิบัติในเรื่องของการถือศีลกินเจมาตลอด (ไม่ใช่เพียงครั้งคราว) และอุทิศตัวทำสาธารณะประโยชน์ให้กับมูลนิธิวิสุทธิคุณ เป็นเวลานานพอสมควรแล้ว พอถึงเทศกาลถือศีลกินเจแบบนี้ เราจึงชวนพี่หมูมานั่งเล่า นั่งคุย แลกเปลี่ยนมุมมองของการถือศีลกินเจกันว่า มีความลึกซึ้ง บริสุทธิ์เพียงไร |
. |
พี่หมูเธอออกตัวก่อนจะตอบคำถาม ว่าเธอรู้เท่าที่ได้พอศึกษาและปฏิบัติมาเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องความเป็นมาของเทศกาลถือศีลกินเจ จริงๆ เธอแล้วได้ยินมาหลายอย่าง อย่างหนึ่งก็คือเขาเชื่อว่าเทศกาลเจช่วงเดือนเก้า เป็นการทานเจเพื่อทำให้จิตใจบริสุทธิ์ เพื่อที่จะเป็นการบูชาพระเจ้าเก้าพระองค์ คือ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู และพระเกตุ ซึ่งพระเจ้าทั้งเก้าพระองค์นั้น ช่วยส่งเสริมในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ ด้วยธาตุทั้งห้า |
. |
ส่วนอีกความเชื่อหนึ่งก็คือ เชื่อกันว่าช่วงเดือนเก้า เทพเจ้าเหล่าทุกพระองค์จะลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อที่จะตรวจตราว่า มนุษย์นั้นทำความดีหรือทำสิ่งที่ไม่ดีอะไรไว้บ้าง ถ้าทำความดี เทพเจ้าก็จะอวยพรให้ มีความสุข มีความสมบูรณ์พูลผล แต่ถ้าทำในสิ่งที่ไม่ดีก็อาจจะมีการลงโทษ คนส่วนใหญ่ถึงถือเอาช่วงเทศกาลนี้ในการถือศีลแล้วก็กินเจ โดยแต่ก่อนนั้น เทศกาลกินเจไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นเฉพาะเดือนเก้า แต่กินได้ตลอด โดยเฉพาะในช่วงไว้ทุกข์ เพื่อสร้างกุศลให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ว |
. |
เหตุผลหลักที่ทำให้พี่หมูเปลี่ยนทัศนะ และตั้งจิตว่าจะถือศีลกินเจ คือการได้เห็นกรรมวิธีที่กว่าจะมาเป็นอาหารให้เราทาน เช่นหมูปิ้ง ข้าวผัดหมู กระเพราหมู นั้นมีกระบวนการฆ่าที่น่าสงสาร สัตว์เหล่านั้นไม่ได้เต็มใจที่จะถูกฆ่า พอเห็นอย่างนั้น พี่หมูจึงเริ่มเปลี่ยนมาทานอาหารเจ |
จากปี 38 ก็ประมาณ 13 ปีเข้ามาแล้ว พี่หมูมองเรื่องผลของการทานเจว่า ไม่ว่าจะทานเจ หรือไม่ทานเจ การบริโภคทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ ส่วนเรื่องการมีสุขภาพที่แข็งแรง ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่เพียงแต่เรื่องกิน ก็ต้องมีการออกกำลังกาย และพักผ่อนเพียงพอ |
. |
"แต่ส่วนที่พี่ได้ แล้วก็เห็นได้ชัด ก็คือเรื่องทางด้านจิตใจมากกว่า พอทานเจเรื่อยๆ เนี่ย สิ่งหนึ่งที่พี่ได้รับก็คือ ทำให้ใจเราน้อมเข้าหาพระธรรมมากขึ้น มีโอกาสได้รักษาศีลได้อย่างแท้จริง อย่างข้อหนึ่งใช่ไหมคะ บางทีแต่ก่อนอาจจะเข้าใจว่า แค่ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ฆ่ายุง ไม่ฆ่ามด หรืออะไรก็ตาม แต่นี่เรามีโอกาสได้ทำได้อย่างบริสุทธิ์ ก็คือรวมถึงการไม่ทานเนื้อสัตว์ด้วย และที่สำคัญก็คือมีโอกาสให้เราเข้าใจถึงสิ่งที่พระพุธเจ้าสอนได้อย่างชัดเจน เรื่องของความเมตตา การที่ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ไม่เพียงแค่คน แต่ว่าเป็นโอกาสที่ทำให้สัตว์เหล่านั้นไม่ถูกฆ่า เพื่อมาเป็นอาหารหล่อเลี้ยงเรา" |
. |
ส่วนคนที่ไม่ได้ทานเจเป็นประจำ หรืออยากตั้งปณิธานในช่วงเทศกาลนั้น พี่หมูแนะนำว่า ในช่วงเทศกาล ร้านค้าต่างๆ มักทำอาหารได้อย่างบริสุทธิ์อยู่แล้ว เราสามารถที่จะหาซื้อทานได้เลย แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่จริงๆ ก็คือเรื่องของความตั้งใจ ความตั้งใจก็เหมือนการตั้งปณิธานว่า 9 วันนั้น เราจะทานเจให้ได้ แต่ส่วนใหญ่คนจะพ่ายต่อความอยาก สิ่งที่คนไม่เห็น ก็คือว่า เราสู้ต่อความอยาก หรือว่าสู้ใจของเราไม่ได้ สิ่งเดียวที่อยากให้มีช่วงนี้ เหมือนกับบอกตัวเอง "ตั้งปณิธานเลยค่ะ ว่า 9 วันนี้ ฉันจะทานเจใหได้" ให้พยายามนึกว่าเรามีโอกาสกินอีกตั้งหลายวัน แต่ 9 วันนี้ขอให้เราพยายามที่จะปลดปล่อยชีวิตของสัตว์ให้ได้ |
. |
จากการทานเพียงช่วงเทศกาล ก็อาจจะหัดทานไปเรื่อยๆ อาศัยการเริ่มจากทุกวันเกิด แล้วก็จะเริ่มขยายไปเรื่อยๆ ก็คือทานทุกวัน แรกๆ อาจจะอาศัยการที่เขาเรียกว่าเจเขี่ย เพียงแต่เราสู้ความอยากของเราให้ได้ แล้วก็ควรถือศีล 5 ร่วมด้วย เพราะว่าการทานเจ มันไม่ใช่เพียงการบริโภคอาหารเข้าไป แต่ความหมายลึกซึ้งของการทานเจ มันก็คือรักษาความบริสุทธิ์ทั้งร่างกาย จิตใจ แล้วก็วาจา ที่สำคัญคือเรื่องของจิตใจ เราควรรักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่คิดร้าย |
. |
. |
ซึ่งปัจจุบันการทานเจหรือการทานมังสวิรัติ ก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ผู้ที่สนใจอาจเริ่มหาข้อมูลจากทางเว็บไซต์หรือ ตามร้านหนังสือตรงมุมสุขภาพ ว่าวิธีการทานเจ อาหารเจเป็นยังไง แต่การทานเจที่ถูกที่ควรเป็นยังไงนั้น พี่หมูบอกว่า พระพุธองค์ก็สอนอยู่เสมอใช่ไหมคะว่า เราไม่ควรเชื่อหนังสือที่เราอ่าน หรือว่าคำที่คนพูดมา เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นมันก็มาจากกระบวนการความคิดของคนที่เขียนออกมาเป็นหนังสือ |
. |
หรือว่าเป็นสิ่งที่คนเขาปฏิบัติมาแล้วมาเขียนเป็นหนังสือ แต่จะถูกจะควรยังไง ก็อยากให้ลองทานดูก่อน แล้วเราก็ลองมาดูว่าการทานเจที่ถูกต้องที่สุดนั้นคืออะไร อย่างที่บอกไปว่ามันไม่ใช่เพียงแค่การกินอาหารอย่างเดียว แต่สิ่งหนึ่งของการทานเจ คือการทำให้เราได้ตัดกิเลศ ตัดตัณหา ตัดความอยาก แต่พี่ไม่ได้หมายความว่าคนกินเจไม่อยากนะ คนกินเจก็อยาก แต่เหตุผลของคนทานเจ สิ่งหนึ่งคือเราได้ปฏิบัติธรรม พอได้ปฏิบัติเนี่ย |
. |
สิ่งหนึ่งที่เราเห็นคือเราจะเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าเราอยาก พอเราเห็นความอยากของเรา เราก็สามารถที่จะลดความอยากของเราได้ แต่ถ้าคนโดยทั่วไปที่ไม่ได้ปฏิบัติ เขาก็จะใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ โอ้...วันนี้ฉันอยากกินอะไร ตอนเย็นฉันอยากกินอะไร อยากอยู่เรื่อยๆ จนเราไม่มีโอกาสรู้ว่าสิ่งหนึ่งมันไม่ใช่ปัญหาเรื่องการกิน |
. |
แต่มันเป็นปัญหาทางจิตใจ ว่าเรามีความอยากตรงนี้อยู่ ที่จะสนองความต้องการของเรา เพราะถ้าพูดถึงการกินเนี่ย ไม่ว่าเราจะกินอะไรเราก็มีชีวิตอยู่ได้ อย่างพี่กินมา 13 ปี พี่ก็ยังมีชีวิตอยู่ได้...เพียงแต่ว่าพี่ เลือกที่จะไม่เอาชีวิตของสัตว์มาต่อชีวิตของเรา...แค่นั้นเอง |
. |
. |
ที่มา : Add Free Magazine |