เนื้อหาวันที่ : 2008-10-14 10:33:41 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1401 views

พาณิชย์ ดันร่างกม.ค้าปลีกฯ เสนอ ครม.สัปดาห์หน้า เข้าสภาฯ ก่อนยุบสมัยนี้

อธิบดีกรมการค้าภายใน เร่งผลักดัน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เข้า ครม.สัปดาห์หน้า ให้บังคับใช้ทางกฎหมาย เพื่อความรวดเร็ว เพื่อดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั้งระบบให้เกิดความเป็นธรรม โชห่วย รายเล็กและใหญ่ทำธุรกิจร่วมกันได้

อธิบดีกรมการค้าภายใน ผลักดัน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เข้า ครม.สัปดาห์หน้า ให้บังคับใช้ทางกฎหมาย เพื่อความรวดเร็ว เพื่อดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั้งระบบให้เกิดความเป็นธรรม โชห่วย รายเล็กและใหญ่ทำธุรกิจร่วมกันได้

.

นาย ยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน

.

นาย ยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 21 ต.ค. กระทรวงพาณิชย์จะเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติเพื่อผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรตามนโยบายของนาย ไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ที่ต้องการให้กฎหมายค้าปลีกค้าส่งมีผลบังคับใช้โดยเร็ว

.

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นร่างเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ยกร่างในสมัยนาย เกริกไกร จีระแพทย์ เป็น รมว.พาณิชย์ และได้ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วาระ 1 ไปแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการธิการ สนช.แต่ต้องยุติ เพราะ สนช.หมดอายุการทำงานก่อน

.

"เหตุที่ต้องเร่งนำร่างกฎหมายเข้า ครม.เพราะเกรงว่าจะนำเสนอไม่ทันรัฐบาลชุดปัจจุบัน เพราะถ้ารอคณะอนุกรรมการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่มีผมเป็นประธาน และตั้งขึ้นตามนโยบายของนายไชยา ศึกษาจนเสร็จ อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน ดังนั้นจึงต้องเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณา เพื่อให้ผ่านมติครม.โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนของกฤษฎีกาแล้ว สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้เลย"นายยรรยง กล่าว

.

หลังจากที่ร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบจาก ครม. และสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาวาระ 1 ได้แล้ว จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการของสภาฯพิจารณาปรับปรุงแก้ไขร่าง ซึ่งในขั้นตอนนี้กระทรวงพาณิชย์จะนำข้อสรุปการปรับปรุงกฎหมายค้าปลีกค้าส่งที่ได้จากคณะอนุกรรมการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งเสนอไปยังคณะกรรมาธิการฯ เพื่อปรับปรุงให้ร่างกฎหมายเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

.

"คณะอนุกรรมการคงทำหน้าที่ศึกษากฎหมายควบคู่ไปกับการนำร่างเสนอไปตามขั้นตอนเพื่อให้มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย เพื่อความรวดเร็ว โดยเป้าหมายของการออกกฎหมายคือ ดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั้งระบบให้เกิดความเป็นธรรม รายเล็กและใหญ่ทำธุรกิจร่วมกันได้ เพราะขณะนี้การทำธุรกิจของห้างค้าปลีกสมัยใหม่ไม่ได้กระทบแต่ค้าปลีกดั้งเดิม (โชห่วย) อย่างเดียวเท่านั้น แต่กระทบกับตลาดนัด และร้านขายสินค้าเฉพาะอย่างไปด้วย" นายยรรยง กล่าว

.

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การปรับปรุงกฎหมายใหม่นั้นจะแยกประเภทธุรกิจค้าปลีกค้าส่งให้ชัดเจนขึ้น และกำหนดลงไปในกฎหมาย จากเดิมที่จะออกเป็นประกาศกระทรวงแยกประเภทในภายหลัง เพื่อให้การแข่งขันเกิดขึ้นในระดับเดียวกัน ไม่ใช่ให้ห้างค้าปลีกมาทำธุรกิจแข่งกับห้างค้าส่ง นอกจากนี้ จะกำหนดประเภทของสินค้าที่จะขายในห้างค้าปลีกค้าส่งด้วยว่าจะมีสินค้าใดบ้าง เพราะขณะนี้ห้างค้าปลีกขายสินค้าหลากหลายมากขึ้น