เนื้อหาวันที่ : 2008-10-14 10:15:45 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1154 views

พาณิชย์ ขยับเป้าส่งออกปี 52 ถึง 6 แสนลบ.แม้หนักใจ GDP โตไม่ถึง 6%

พาณิชย์ ปรับเป้าหมายส่งออกในปี 52 เป็น 6.6 ล้านล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 6 ล้านล้านบาท คาดเศรษฐกิจไทยปีหน้าอาจเติบโตไม่เกิน 6% เร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับวิกฤติเศรษฐกิจโลก

พาณิชย์ ปรับเป้าหมายส่งออกในปี 52 เป็น 6.6 ล้านล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 6 ล้านล้านบาท คาดเศรษฐกิจไทยปีหน้าอาจเติบโตไม่เกิน 6% เร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับวิกฤติเศรษฐกิจโลก

.

นาย ศิริพล ยอดเมือง ปลัดกระทรวงทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะปรับเพิ่มเป้าหมายการส่งออกในปี 52 เป็น 6.6 ล้านล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 6 ล้านล้านบาท แม้ว่าจะหนักใจจากการที่หลายฝ่ายคาดเศรษฐกิจไทยปีหน้าอาจเติบโตไม่เกิน 6% โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับภาวะการเศรษฐกิจโลก

.

"กระทรวงพาณิชย์พร้อมจะผลักดันยอดการส่งออกให้เพิ่มมากกว่าปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นจากเป้า 6 ล้านล้านบาทของปีนี้ อีก 6 แสนล้านบาท รวมเป็น 6.6 ล้านล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายว่าจะให้เพิ่มขึ้น 5% หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นอีก 3 แสนล้านบาท"นายศิริพล กล่าว

.

พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปี 52 ได้วางเป้าหมายของการส่งเสริมการลงทุนไว้ที่ 6 แสนล้านบาท สูงกว่าปี 51 เพราะปีนี้มีปัญหาจากที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บอร์ด BOI) หมดวาระลง ทำให้การอนุมัติบริษัทเอกชนที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนในไทยได้ไม่มากนัก

.

ด้านนาย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้กระทรวงฯ จะปรับปรุงมาตรการการลงทุนภาคการท่องเที่ยว และจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

.

นาย โอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ภายนอกประเทศแม้จะดูเหมือนคลี่คลายแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณต่างๆ ในตลาดโลก ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องกำหนดแผนรับมือทั้งเชิงรับและเชิงรุก และใช้โอกาสที่ธนาคารและเศรษฐกิจในเอเชียมีความแข็งแกร่งอยู่นี้เพิ่มความร่วมมือระหว่างเศรษฐกิจเอเชียให้มากขึ้น