เนื้อหาวันที่ : 2008-10-14 09:57:15 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1271 views

ส.อ.ท.หนุน 6 มาตรการรับมือวิกฤติโลก แนะลดภาษีเงินได้กระตุ้นเพิ่ม

ประธาน ส.อ.ท.ขานรับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งผลักดันให้นโยบายที่แถลงออกมาดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเร็วที่สุด หากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้าอยู่ที่ระดับ 4% ถือว่าเป็นที่น่าพอใจแล้ว สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักลงทุน และเชื่อว่าหุ้นไทยก็จะกลับมาบวกอีกครั้ง

ประธาน ส.อ.ท.ขานรับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งผลักดันให้นโยบายที่แถลงออกมาดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเร็วที่สุด หากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้าอยู่ที่ระดับ 4% ถือว่าเป็นที่น่าพอใจแล้ว สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักลงทุน และเชื่อว่าหุ้นไทยก็จะกลับมาบวกอีกครั้ง

.

นาย สันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)

.

นาย สันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยพอใจ 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) และหากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้าอยู่ที่ระดับ 4% ถือว่าเป็นที่น่าพอใจแล้ว

.

ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า รัฐบาลควรเร่งผลักดันให้นโยบายที่แถลงออกมาดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเร็วที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักลงทุน และเชื่อว่าหุ้นไทยก็จะกลับมาบวกอีกครั้ง

.

สำหรับมาตรการที่รัฐควรเร่งดำเนินการ ได้แก่ มาตรการสนับสนุนสินเชื่อเอสเอ็มอีและดูแลสภาพคล่องให้เพียงพอ, การส่งออกและท่องเที่ยวที่กำหนดเป้าหมายจะต้องเติบโตเพิ่มอีก 5%, การดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพไม่แข็งค่ากว่าคู่แข่ง เพราะปีหน้าการส่งออกจะมีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างรุนแรง ส่วนการที่จะให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 5% ถือว่าดำเนินการค่อนข้างยาก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ ดังนั้นธนาคารรัฐควรเป็นผู้นำปล่อยสินเชื่อออกสู่ระบบเศรษฐกิจ

.

ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า มีความเป็นห่วงราคาสินค้าเกษตรของไทยในปีหน้า เพราะหากราคาสูงก็จะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวม เนื่องจากเกษตรกรและระดับรากหญ้าจะมีรายได้จากการขายพืชผลทางการเกษตร แต่หากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำลงวิกฤติเศรษฐกิจจะหนักยิ่งขึ้น

.

ส่วนการที่รัฐบาลคาดว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะขยายตัว 4% ถือว่าน่าจะเป็นไปได้ แต่ต้องจับตาดูว่าการตื่นตระหนกวิกฤติสถาบันการเงินโลกจะยุติเร็วเพียงใด นอกจากนี้อยากเสนอให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยลดการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 25% เพื่อให้ภาคเอกชนมีเงินเหลือมาใช้จ่ายและลงทุนเพิ่ม รวมทั้งลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีรายได้ระดับกลางลงมาเพื่อให้ เกิดการจับจ่ายใช้สอย