เนื้อหาวันที่ : 2008-10-13 16:39:56 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1228 views

บีโอไอเผย 9 เดือนลงทุนแล้วกว่า แสนล้านบาท

บีโอไอเผยต่างชาติไม่หนีไปจากประเทศไทย จำนวนโครงการลงทุนจากต่างประเทศช่วง 9 เดือนยังเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มนักลงทุนจากอาเซียนและยุโรป ขอรับส่งเสริมกว่า 8.5 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัวประมาณ 17%

.

.

บีโอไอเผยต่างชาติไม่หนีไปจากประเทศไทย จำนวนโครงการลงทุนจากต่างประเทศช่วง 9 เดือนยังเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มนักลงทุนจากอาเซียนและยุโรป ขอรับส่งเสริมกว่า 8.5 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัวประมาณ 17%

.

นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2551 นักลงทุนต่างชาติยังคงสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทำให้ภาพรวมการลงทุนตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 356 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 115,068 ล้านบาท

.

โดยจำนวนโครงการปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2550 ซึ่งมี 333 โครงการ สำหรับมูลค่าเงินลงทุนแม้จะปรับลดลงจากช่วงเดียวกันปี 2550 ประมาณร้อยละ 12 เนื่องจากปีที่ผ่านมามีโครงการขนาดใหญ่ขอรับส่งเสริมหลายโครงการ ในขณะที่ปีนี้มีโครงการขนาดใหญ่น้อยกว่า

.

ทั้งนี้นักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นอยู่ในกลุ่มยุโรป และอาเซียน ซึ่งลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนโครงการ และมูลค่าเงินลงทุน โดยทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าว มีมูลค่าเงินลงทุนรวมกัน ทั้งสิ้น 85,416 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าประมาณ 72,829 ล้านบาท หรือปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เช่น ประเทศ เนเธอแลนด์ ฝรั่งเศส มาเลเซีย เป็นต้น

.

"นักลงทุนกลุ่มอาเซียน และยุโรป จะให้ความสำคัญกับประเทศที่มีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค และสามารถขยายตลาดสินค้าไปสู่ประเทศอื่น ๆ ได้ ในขณะเดียวกันก็จะให้ความสนใจในนโยบายที่ชัดเจนของภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมา แม้ไทยจะมีความวุ่นวายทางการเมือง แต่รัฐบาลยังยืนยันไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการส่งเสริมการลงทุน"

.

"ประกอบกับประเทศมีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค และเป็นศูนย์กลางอาเซียนในหลาย ๆ ด้าน จึงยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน แม้ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดเล็ก ทำให้มูลค่าเงินลงทุนโดยรวมลดลง แต่แสดงให้เห็นว่าไทยเป็นประเทศที่นักลงทุนตัดสินใจเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง" นางอรรชกากล่าว

.

สำหรับประเทศเนเธอร์แลนด์ มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริม 23 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 24,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 14 โครงการ เงินลงทุน 2,511 ล้านบาท ซึ่งกิจการที่ได้รับความสนใจเข้ามาลงทุนสูงสุดอยู่ในกลุ่ม เคมีภัณฑ์ และกระดาษ สิ่งทอ เครื่องไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

.

ส่วนการลงทุนจากประเทศฝรั่งเศส มีการขอรับส่งเสริมจำนวน 18 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 1,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 13 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 442 ล้านบาท โดยกิจการที่เข้ามาลงทุน อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า

.

สำหรับประเทศมาเลเซีย มีจำนวน 33 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 6,724 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 28 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 4,111 ล้านบาท กิจการที่เข้ามาลงทุนอยู่ในกลุ่ม อุปกรณ์ขนส่ง เกษตรกรรม และผลผลิตจากการเกษตร เป็นต้น