ธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไปตามปติ โดยการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น AIG CFG ที่อาจเกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการปฏิบัติงานของธุรกิจ ธ.ในปัจจุบัน โดย ธ.ยังดำรงความมั่นคง และความมีสภาพคล่องที่สูง ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจได้ว่า เงินฝากของลูกค้าจะมีความปลอดภัย
. |
. |
นายชาลี มาดาน กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอไอจี เพื่อรายย่อย และผู้นำกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย AIG Consumer Finance Group (AIG CFG) และกลุ่มบริษัทในเครือ กล่าวว่า ธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไปตามปติ โดยการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น AIG CFG ที่อาจเกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการปฏิบัติงานของธุรกิจ ธ.ในปัจจุบัน โดย ธ.ยังดำรงความมั่นคง และความมีสภาพคล่องที่สูง ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจได้ว่า เงินฝากของลูกค้าจะมีความปลอดภัย |
. |
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ต.ค.) บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล กรุ๊ป อิงค์ หรือ AIG ที่นิวยอร์ค ประกาศจะปรับทิศทางธุรกิจ โดยยังคงดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยในสหรัฐ และธุรกิจประกันวินาศภัยในต่างประเทศ และยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธุรกิจประกันชีวิตในตปท. แต่จะพิจารณาการขายกิจการอื่นๆ ในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสูง และพิจารณาทางเลือกอื่น |
. |
โดยกลุ่มธุรกิจ AIG CFG และกลุ่มบริษัทในเครือ ซึ่งรวมถึง ธ.เอไอจีเพื่อรายย่อย และเอไอจี การ์ด (ประเทศไทย) อาจต้องปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นด้วย นายชาลี กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารได้รับเงินทุนและวงเงินสำรอง จำนวน 14,000 ล้านบาท จากบริษัทแม่ฝากไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ซึ่งทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในฐานะการเงินและสภาพคล่อง |
. |
อัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ณ สิ้น ส.ค.51 มีสูงถึง 24% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยในระบบอุตสาหกรรมไทยที่อยู่ระดับ 15% และสูงกว่าเกณฑ์ที่ กม.กำหนดไว้เกือบ 3 เท่า จากอัตรา 8.5 % ขณะที่ยอดสินเชื่อ/เงินฝาก อยู่ระดับเดียวกับอัตราส่วนเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจธนาคาร ที่ 96% และ ธ.ยังรักษาระดับหนี้สูญไม่เกิน 2% ของสินเชื่อรวม |
. |
ด้านนายสตีเว่น บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท นิวแฮมเชอร์ อินชัวรันส์ และ บ.เอไอจี ประกันวินาศภัย กล่าวว่า ทั้ง 2 บริษัท ยังคงดำเนินธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง และได้ดำเนินธุรกิจในไทยนานกว่า 68 ปีแล้ว โดยได้ปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ภายใต้ การกำกับดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ที่มีนโยบายมุ่งเน้นการรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภคและลูกค้าอย่างเคร่งครัด |
. |
"ธุรกิจประกันวินาศภัยของเรา ยังคงมีผลประกอบการที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากเรามีนโยบายบริหารธุรกิจที่มุ่งเน้นการทำกำไร จากการพิจารณา การประกันภัยเป็นหลัก ไม่ใช่การสร้างผลกำไรจากการลงทุน" ทั้งนี้ในปี 2550 ผลกำไรจากการรับประกันภัยของทั้งบริษัท มีสัดส่วนสูงถึง 28% ของผลกำไรจากการรับประกันภัยในธุรกิจประกันวินาศภัยทั้งระบบ |
. |
ด้านผู้บริหาร AIA กล่าวยืนยันว่า บริษัทยังดำเนินธุรกิจตามปกติ และยังมีความมั่นคงทางการเงิน "บริษัทขอยืนยันว่า เงินสำรองประภันและเงินกองทุน ยังเพียงพอในการรับประกันผลประโยชน์ของลูกค้าทุกกรมธรรม์ บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ" ผู้บริหาร AIA กล่าว |