เนื้อหาวันที่ : 2008-10-07 10:16:45 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1423 views

เซาท์อีสต์ เอเชียฯจะเจรจา ก.พลังงานขอปรับค่าไฟน้ำงึม 2 หลังต้นทุนเพิ่ม

เซาท์อีสต์ เอเชีย เอนเนอร์จี ร้องรัฐช่วยเรื่องต้นทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่สูงขึ้นร้อยละ 25-30 หลังราคาวัสดุก่อสร้างพุ่งอาจจะมีการปรับราคาขายไฟฟ้าโครงการนี้ จากเดิมตามสัญญาจะขายให้กับ กฟผ. ในราคา 2 บาท ต่อหน่วย ซึ่งถือว่าต่ำมาก

เซาท์อีสต์ เอเชีย เอนเนอร์จี ร้องรัฐช่วยเรื่องต้นทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่สูงขึ้นร้อยละ 25-30 หลังราคาวัสดุก่อสร้างพุ่งอาจจะมีการปรับราคาขายไฟฟ้าโครงการนี้ จากเดิมตามสัญญาจะขายให้กับ กฟผ. ในราคา 2 บาท ต่อหน่วย  ซึ่งถือว่าต่ำมาก

.

 นายคำผุย  จิราระรื่นศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซาท์อีสต์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด  เปิดเผยว่า  บริษัทเตรียมที่จะหารือกับ กระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องต้นทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่สูงขึ้นร้อยละ 25-30 เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็กเพิ่มเป็น 30 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 18 บาทต่อกิโลกรัม หากเป็นไปได้ก็อาจจะมีการปรับราคาขายไฟฟ้าโครงการนี้ จากเดิมตามสัญญาจะขายให้กับ กฟผ. ในราคา 2 บาทต่อหน่วย  ซึ่งถือว่าต่ำมาก

.

ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าเขื่อนพลังน้ำน้ำงึม 2 นายคำผุยกล่าวว่า ขณะนี้คืบหน้าไปแล้วประมาณร้อยละ 65.59  คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนให้กับประเทศไทย ได้ในเดือนพฤศจิกายน  2553 ซึ่งเป็นการเสร็จก่อนกำหนดเดิม 4 เดือน  ที่กำหนดเสร็จในเดือนมีนาคม 2554

.

ในส่วนการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าจากตัวเขื่อนถึงสถานีไฟฟ้าบ้านนาบง ใกล้กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  มีความยาว 80 กิโลเมตร ขนาด 230 กิโลโวลต์ และสถานีไฟฟ้าบ้านนาบง ข้ามมาแม่น้ำโขงถึงชายแดนไทยบริเวณบ้านจอมแจ้ง  ตำบลสีกาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ระยะทาง 27 กิโลเมตร ขนาด 500 กิโลโวลต์  อยู่ระหว่างการทำฐานราก สำหรับสายส่งไฟฟ้าในประเทศไทยจะเข้าทางสถานีไฟฟ้าอุดรธานี 3 ระยะทาง 70 กิโลเมตร ขนาด 500 กิโลโวลต์  อยู่ระหว่างการดำเนินการของ  กฟผ.

.

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 มีกำลังการผลิต ประมาณ 615 เมกะวัตต์ หรือเฉลี่ยต่อปี 2,218 ล้านหน่วย  ซึ่งจะขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อนำมาใช้ในประเทศไทยทั้งหมดเป็นระยะเวลา 25 ปี โครงการนี้ถือหุ้นโดยรัฐบาลลาวร้อยละ 25 และบริษัท เซาท์อีสต์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัดร้อยละ 75 มูลค่าโครงการ ประมาณ 30,000 ล้านบาท

.

นายคำผุยกล่าวว่า รัฐบาลไทยกับรัฐบาลลาวมีข้อตกลงความร่วมมือในการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกัน โดยไทยจะรับซื้อไฟฟ้าจากลาว 7,000 เมกะวัตต์ ในปี 2562 ซึ่งโครงการนี้อยู่ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว  และเป็นโครงการที่ 4 จากปัจจุบันไทยได้ซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาวแล้ว 2 โครงการ คือ โรงโฟฟ้าพลังน้ำเทิน-หินบุน ขนาด 220 เมกะวัตต์  โรงไฟฟ้าพลังน้ำห้วยเฮาะ 126 เมกะวัตต์  ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ขนาดกำลังการผลิต 920 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จ และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2553

.

อย่างไรก็ตามในอนาคต บริษัท เซาท์อีสต์ เอเชียฯ มีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าน้ำงึมส่วนขยายเพิ่มเติม หรือในลำนำสาขา คือโครงการน้ำบาก ซึ่งเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก ประมาณ 200 เมกะวัตต์  และโรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 และน้ำงึม 5 โดยน้ำงึม 5 จะให้ บริษัท ชิโนไฮโดร จากประเทศจีนเป็นผู้ก่อสร้าง โดยน้ำงึม 5 จะผลิตเพื่อขายไฟฟ้าให้กับประเทศลาวรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของลาวที่สูงขึ้น  เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีการเติบโตมากขึ้น  ส่วนน้ำงึม 3 เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจากับ กฟผ. เพื่อที่จะขายไฟฟ้าเข้าสู่ประเทศไทย