เนื้อหาวันที่ : 2008-09-24 12:16:18 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2461 views

เยือนชุมชนตลาดน้ำอัมพวายามเย็น

ถ้าหากจะเอ่ยถึงชุมชนตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งเป็นอีกชุมชนหนึ่งที่ยังอนุรักษ์วิถีชีวิตชุมชนคงไว้แบบดังเดิมบนความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย

ย่างเข้าเดือนเมษาฯปีนี้ ไม่ใช่ร้อนแค่อากาศเพียงอย่างเดียว พิษการเมืองยิ่งมีอุณหภูมิร้อนยิ่งกว่าเสียอีก จะหนีไปมุมไหนก็ต้องเจอกับม็อบและก็ม็อบอย่างหลีกหนีไม่พ้น โอกาสที่จะหนีร้อนไปพึ่งเย็นก็คงจะไม่ง่ายนัก หากจะไปต่างจังหวัดไกลๆ ก็สิ้นเปลืองพลังงาน น้ำมันยิ่งแพง นี้จะขึ้นอีกแล้ว ไกล ๆ มากก็อาจจะเหนื่อยเกินไป เพราะขืนกลับมาอ่อนเพลียเสียแรง งานนี้เห็นทีคงจะไม่คุ้มแน่ กะว่าจะไปไม่ใกล้ไม่ไกล จากเมืองหลวงมากนัก ขับรถชมวิวพร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศบ้านนอก ๆ ชนบท ๆ หน่อย กินลมเย็น ๆ ชมแมกไม้ริมทางแบบ ชิว ๆ นั่งรถไปชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงแล้ว ก็คงจะเป็นเมืองแม่กลองนี้แหละ และที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือ "อัมพวา" แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.สมุทรสงคราม ขึ้นชื่อเอาจริง ๆ

 

.

ในการเดินทางไปท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ครั้งนี้ เราได้ใช้ชื่อทัวร์ว่า ทัวร์กินแหลก เป็นชื่อที่อาจจะไม่เหมือนกับชาวบ้านชาวช่องเขาสักเท่าไหร่ เพราะสมาชิกทัวร์พยายามมองหาแต่อาหาร เพื่อลิ้มรสความอร่อย และดื่มด่ำกับบรรยากาศเพื่อให้ตรงตามจุดประสงค์ของชื่อทัวร์ หิวไม่หิวก็ต้องมอง กินไม่กินก็ต้องซื้อ อยากไม่อยากก็ต้องกิน อิ่มแบบไม่ต้องกินข้าวเลยสักวัน

.

เราได้รวมพลสมาชิกทัวร์กันตั้งแต่สิบโมงเช้า สมาชิกทัวร์บางคนออกอาการตื่นเต้น กินไม่ได้นอนไม่หลับ ดูหนังเกาหลีเพลินจนถึงตีสาม  คราวนี้นาฬิกาปลุกก็ไม่มีความหมายเท่าไหร่ เพราะเกิดอาการง่วงเอามาก ๆ เลย กว่าจะรู้สึกตัวและลุกตื่นก็ปาเข้าไปเกือบ ๆ เก้าโมงเช้าเกือบ ๆ สิบโมงสะแล้ว ทำให้เพื่อนสมาชิกทัวร์กินแหลก จำเป็นต้องรอกันเป็นแถวเลย กว่าจะขับเคลื่อนขบวนทัวร์ออกจากเมืองหลวงไปได้เกือบจะเที่ยงแล้ว การเดินทางไปทัวร์ครั้งนี้ก็เพื่อผักผ่อนแบบออกเร่งหน่อย เพราะพลขับของเราก็เป็นสาว (ออกจะแก่ ๆ ไปนิด) แต่ด้วยที่เป็นสาวโสด มีจิตใจหึกเหิม ร่าเริงแจ่มใส เด็ดเดี่ยวก็ยังสามารถนำพาพาหนะ รถเก๋งสีเขียวแก่ (อีแก่) คันเก่า ๆ แต่มันก็ยังสามารถขับขี่ไปไหนมาไหนได้ตามที่เจ้าของต้องการ นำพาเราไปถึงจุดหมายปลายทางที่เมืองแม่กลองอย่างปลอดภัย

.
แวะดอนหอยหลอด

เส้นทางสู่ดอนหอยหลอดได้ใช้ถนนธนบุรี-ปากท่อ (พระราม 2) ซึ่งก่อนถึงหลักกิโลเมตรที่ 62 มีป้ายซ้ายบอกทางเข้าดอนหอยหลอด ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรไปยังหมู่บ้านบางบ่อ ตำบลบางแก้ว ก่อนถึงดอนหอยหลอดเราได้หยุดขบวนทัวร์เพื่อลิ้มรสอาหารยอดนิยมคือก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ถูก สุด ๆ ชามละ 10 บาท แต่อร่อยไม่แพ้ชามละ 30 ของกรุงเทพฯ เลย จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยังดอนหอยหลอดซึ่งเป็นการพักผ่อนระหว่างเส้นทางก่อนที่จะไปถึงอัมพวา ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในทริปทัวร์กินแหลกครั้งนี้

.

.

ถึงดอนหอยหลอดอากาศเย็นสบาย หายใจเข้าลึก ๆ ให้เต็มปอด แล้วเราจะได้อากาศที่บริสุทธิ์ที่สุด ทำให้รู้สึกสดชื่นไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง บรรยากาศอย่างนี้ซึ่งแตกต่างจากเมืองหลวงยิ่งนัก บริเวณดอนหอยหลอดมีลักษณะเป็นสันดอนของปากน้ำแม่กลอง โดยเกิดจากการตกตะกอนของดินปนทราย ชาวบ้านเรียกทรายนี้ว่าขี้เป็ด แต่ไม่รู้นะว่าเป็นเป็ดพันธุ์ใด โดยมีอาณาบริเวณกว้างประมาณ 3 กิโลเมตร ยาว 5 กิโลเมตร มี 2 แห่ง คือ ดอนนอกอยู่บริเวณ ปาก อ่าวแม่กลอง เดินทางไปได้โดยทางเรือ ส่วนดอนใน อยู่ที่ชายหาดหมู่บ้านฉู่ฉี่ ส่วนตำบลไม่ใช่ปลาทูนะ แต่เป็นตำบลบางจะเกร็ง และส่วนที่ชายหาดหมู่บ้านบางบ่อ ตำบลบางแก้ว สามารถเดินทางได้โดยทางรถยนต์ บริเวณสันดอนนี้มี หอยอาศัยอยู่หลายชนิด ลองมาดูสิว่ามีหอยอะไรที่เรารู้จักและคุ้นชื่อกันบ้าง มีจำพวกหอยลาย ชื้อนี้คุ้นหู ๆ นะ หอยปุก หอยปากเป็ด หอยแครงนี้ก็รู้จักเหมือนกันและโดยเฉพาะหอยหลอดมีมากที่สุด ถ้าไม่มีก็ไม่รู้จะเรียกว่าดอนอะไร ต้องมีเยอะ ๆ นะครับถึงจะเรียกกว่าดอนหอยหลอด

 

.

 
จากการสืบทราบและค้นหาข้อมูลเบื้องต้นได้รู้มาว่า หอยหลอดเป็นหอยชนิด 2 ฝา ตัวสีขาวขุ่นมีเปลือกคล้ายหลอดกาแฟ ฝังตัวอยู่ในทราย การจับหอย หลอดจะใช้ไม้เล็ก ๆ ขนาดก้านธูป จุ่มปูนขาว แล้วแทงลงไปในรูหอยหลอด หอยจะเมา ปูนแล้วโผล่ขึ้นมาให้ จับ ดอนหอยหลอดนี้ ในเวลาน้ำมากจะถูกน้ำท่วม และในช่วงเวลาน้ำน้อย ขณะน้ำลงจะสามารถไป เที่ยวชมทัศนียภาพได้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมดอนหอยหลอด คือระยะเวลาเดือนมีนาคม- พฤษภาคม
.
บริเวณดอนหอยหลอดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งก็ได้แวะสักการะขอพร จากนั้นก็เดินมุ่งหน้าไปยังตลาดเดินไปตามริมถนน ซื้อไปชิมไป มีร้านอาหาร ร้านขายสินค้าพื้นเมือง เช่น หอยหลอดแห้ง อาหารทะเลสด น้ำปลา กะปิคลองโคน น้ำตาลปึก น้ำตาลสด มากมายหลายอย่าง หากคุณมีเวลามากพอ ที่นี่ยังมีบริการล่องเรือชมรอบดอนหอยหลอดในราคาที่ไม่แพง เพียงคนละ 50 บาท ก็นับว่าได้บรรยากาศไม่น้อย จากดอนหอยหลอดก็รีบเดินทางไปมุ่งหน้าสู่อัมพวาถึงพี่พัก พอพลบค่ำแล้วก็เตรียมตัวที่จะไปเยือนเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศของชุมชนตลาดน้ำอัมพวายามเย็นตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้
.
รื่นรมย์สวนวรรณคดีของอุทยานรัชกาลที่ 2
.

.

ก่อนจะไปถึงตลาดยามเย็นเราก็ได้แวะชมความรื่นรมย์กลางสวนวรรณคดีภายในอุทยานรัชกาลที่ 2 ซึ่งอยู่ไม่ใกล้กับตลาดน้ำชุมชนอัมพวามากนัก อุทยานรัชกาลพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือที่เรียกกันว่า อุทยานรัชกาลที่ 2 ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับวัดอัมพวันเจติยาราม มีเนื้อที่ 11 ไร่ ติดกับแม่น้ำแม่กลอง เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธาน เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ในปี พ.ศ.2530 และได้ส่งเสริมให้มีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฉลองวันพระราชสมภพขึ้นเป็นประจำ

 

.

 

 

บรรดานักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนไปสัมผัสกับความงามของบ้านเรือนไทยหมู่  4 หลัง ซึ่งหาชมได้ยากมาก ภายในอุทยานแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ลานจอดรถ คือบริเวณหน้าอุทยาน ส่วนที่ 2 ลานโขน เป็นโรงละครกลางแจ้ง ส่วนที่ 3 เป็นหมู่เรือนไทย 4 หลัง โดยจัดเป็นพิพิธภัณฑ์พระพุทธเลิศหล้านภาลัย 1 แห่ง เป็นหอสมุด1 แห่ง มีการตกแต่งบ้านไทยโบราณ เครื่องเบญจรงค์ เครื่องถ้วย หัวโขน อาวุธโบราณ พระพุทธบูชาต่าง ๆ รวมไปถึงเครื่องมือเครื่องใช้ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวไทยในสมัยรัชกาลที่ 2 ส่วนที่ 4 สวนพฤกษชาติ มีพันธุ์ไม้ในวรรณคดี นานาชนิด เช่น คัดเค้า สายหยุด จำปี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมปูนปั้นตัวละคร ที่อยู่ในบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่จัดแสดงตามมุมต่าง ๆ ของบริเวณสวน อีกด้วย ส่วนที่ 5 ศาลาเอนกประสงค์มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งต่อไปจะพัฒนาให้เป็นแหล่งชุมชนที่ค้าขายแบบตลาดน้ำ นอกจากนี้ยังมีอาศรมศึกษา เป็นอาคารเรียนดนตรีไทยสำหรับเยาวชนอำเภออัมพวา โดยมีการเรียนการสอนทุกวันเสาร์มีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงศิลปวัตถุในสมัยรัตนโกสินทร์  เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชม เด็ก 5 บาท ผู้ใหญ่ 10 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. (034) 751-367, 751666

 .
 เยือนชุมชนตลาดน้ำอัมพวายามเย็น

ชุมชนอัมพวา เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม มีความสำคัญที่เกี่ยวข้องทางประวัติศาสตร์ไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยามาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยก่อนชาวบ้านเรียกกันว่า แขวงบางช้าง ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าตั้งขึ้นในสมัยใดแต่ในชั้นเดิมนั้นรวมอยู่กับเมืองราชบุรี บริเวณแขวงบางช้างนี้เรียกว่า "สวนนอก"  ลักษณะของแขวงบางช้างเป็นชุมชนเล็ก   มีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน ในอดีตเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญ มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่มีความเจริญทั้งทางด้านเกษตร การค้าพาณิชย์ มีหลักฐานปรากฏว่า ในสมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา แขวงบางช้างมีตลาดค้าขายแห่งหนึ่งเรียกว่า "ตลาดบางช้าง"  มีนายตลาดบางช้างเป็นผู้เก็บอากรขนอนตลาด นายตลาดบางช้างนี้เป็นผู้หญิงนามว่า "น้อย" มีบรรดาศักดิ์เป็น "ท้าวแก้วผลึก" เป็นตระกูลผู้มั่งคั่งอยู่ในแขวงบางช้าง (ซึ่งต่อมาเป็นต้นวงศ์ราชนิกูลบางช้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ปัจจุบันสองฝากฝั่งคลองของชุมชนห้องแถวเก่าแก่ในยานตลาดน้ำอัมพวายังไว้อนุรักษ์วิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบดังเดิม ซึ่งมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ความคลังของมนต์เสน่ห์กลิ่นอายวิถีชีวิตชาวอัมพวาที่ได้ร่วมสืบทอดต่อกันมายังคงความเย้ายวนต่อผู้ไปเยือน

 .

 

 .

 ตลาดน้ำอัมพวาถือเป็นตลาดน้ำยามเย็นแห่งเดียวในระแวกปากน้ำแม่กลองหรือแห่งแรกในเมืองไทย บรรยากาศพอพลบค่ำชาวบ้านซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าก็เริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิดมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าตลาดอัมพวาตั้งแต่สี่โมงเย็นจนถึงประมาณสองสามทุ่ม วิถีชีวิตสองฝากฝั่งคลองจึงเป็นตลาดน้ำที่อุดมไปด้วยของกิน อาหารคาวหวาน ของกินพื้นเมือง ของฝาก สินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล พืชผักผลไม้นานาชนิดที่มีในท้องถิ่น ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทัวร์กินแหลกแบบฉบับอิ่มอร่อยจ่ายน้อยคงจะไม่ผิดนัก

 

 .

 เพียงก้าวเท้าเดินเข้าสู่บริเวณตลาดฝนก็เริ่มตกปรอย ๆ ลงมาทำให้บรรยากาศของตลาดริมน้ำที่เต็มไปด้วยผู้คนส่งเสียงกันฝากฝั่งของตลาดพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันเก็บข้าวของที่นำมาขายหลบฝนกันขวักไขว่ นักท่องเที่ยวรีบเก็บตัวเข้าหาที่หลบฝนกัน แต่ก็ยังไม่ทิ้งบรรยากาศของตลาดริมน้ำไปได้ เพราะของกินนั้นมีเยอะเหลือเกิน เราพากันนั่งพักริมคลองและอีกฝากหนึ่งเป็นถนนเลียบนทีซึ่งเป็นถนนคนเดิน ป้ายถนนนี้แหละที่ทำให้สมาชิกทัวร์กินแหลก ได้อารมณ์ขำอยู่นานพอควร จากนั้นเราก็เดินลัดเลาะผ่านตลาดไปเพื่อแวะชมความงามของที่ทำการเทศบาลอัมพวา เป็นอาคารไม้สองชั้นซึ่งยังคงอนุรักษ์รูปแบบของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของชุมชนเอาไว้อย่างสวยงาม ตั้งเด่นสง่าอยู่ใกล้เคียงกับตลาดอัมพวา

 .

จากความวุ่นวายในสังคมเมืองหลวงต้องหลีกหนี พเนจรรอนแรมไปสัมผัสบรรยากาศเย็น ๆ ของสวนผสมริมน้ำ ทั้งลิ้นจี่ มะม่วง มะพร้าว มะละกอ กล้วย ส้มโอ ฯลฯ สารพัดผลไม้เรียงรายชูช่ออวดโฉมแก่ผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร แถว ๆ อัมพวา เมืองแม่กลอง ซึ่งอีกพื้นที่หนึ่งที่เราไม่อาจมองข้าม ขับรถส่วนตัวเดินทางไปเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง คุณก็จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบไทย ๆ อย่างแท้จริง และโอกาสที่จะได้ระลึกถึงวันเวลาเก่า ๆ จะเกิดขึ้นกับคุณจากที่นี่อย่างไม่รู้ตัว คือ อัมพวา