หากคุณเป็นชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีคนที่รักอยู่ในช่วงวัยนี้ คุณอาจอยู่ในความสัมพันธ์ที่ยาวนานมากว่า 10 ปี ดังนั้น ทั้งคู่อาจต่างพยายามมองข้าม "ชีวิตรัก" เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติที่สุด
หากคุณเป็นชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีคนที่รักอยู่ในช่วงวัยนี้ คุณอาจอยู่ในความสัมพันธ์ที่ยาวนานมากว่า 10 ปี ดังนั้น ทั้งคู่อาจต่างพยายามมองข้าม "ชีวิตรัก" เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติที่สุด แต่ทั้งคุณและเขาอาจเต็มไปด้วยข้อสงสัยแต่ไม่รู้หรือไม่กล้าจะถามใคร เพราะเรื่องบนเตียงไม่ใช่เรื่องที่จะพูดกันได้ง่าย ๆ
เพื่อให้ความกระจ่างในเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายแพทย์กวิวัช ตันติวงษ์ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จะมาตอบคำถามที่อยู่ในหัวของคุณและเขา แล้วคุณจะรู้ว่าเรื่องเพศไม่ซับซ้อนและน่าอายแต่อย่างใด
1. ดิฉันไม่แน่ใจว่าสามีของดิฉันซึ่งอยู่ในช่วง 40- 50 ปี พักหลังๆมานี้ทำ "การบ้าน" น้อยลงไปมาก เป็นเพราะเขามีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่ที่อยู่กินกันมานานความหวานก็ย่อมจืดจางไปตามปกติ
สำหรับคำถามนี้ นายแพทย์กวิวัช ตันติวงษ์ แนะนำวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ ว่าคุณผู้ชายในวัยนี้มีอาการหรือพฤติกรรมต่อไปนี้หรือไม่
นกเขาไม่ขัน หรือ ขันไม่จบเพลง ติดต่อกันเกิน 2 เดือน หรือมีการเกิดซ้ำ
มีรอบเอวหนาเกิน 90 ซม.
มีอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ แล้วต่อมาเกิดเหตุการณ์กางเกงเปียกเป็นหย่อม ๆ เนื่องจากอาการปัสสาวะขัด หรือ ปัสสาวะกระปริบกระปรอย
มีอาการซึมเศร้า
หงุดหงิดง่าย
ขี่จักรยานทางไกล หรือขี่มอเตอร์ไซด์เป็นประจำ
สูบบุหรี่
ดื่มแอลกอฮอล์
ออกกำลังกายน้อย
อ่อนเพลีย อยากดื่มน้ำตลอดเวลา รับประทานอาหารได้แต่ผอม
มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง
เคยผ่าตัด เช่น ผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน ผ่าตัดท่อปัสสาวะ หรือผ่าตัดไขสันหลัง
เคยได้รับการฉายแสง
หากพบว่า คุณผู้ชายมีปัญหาข้อ 1 ร่วมกับข้ออื่นข้อใดที่เหลือ หรือ พบอาการตั้งแต่ข้อ 2 เป็นต้นไป มากกว่า 3 อาการขึ้นไป แสดงว่ามีความเสี่ยงต่อโรคหย่อนสมรรถภาพค่อนข้างสูง แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ หากปล่อยไว้เนิ่นนาน อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงต่างๆ อาทิ โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคสมองเสื่อมและโรคเบาหวาน
2. แล้วคู่ของผมอยู่กันมาจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร อายุ 60 – 70 ปี แล้ว "นกเขา" จะขันบ้างหรือไม่ขันเลย ก็น่าจะเรื่องธรรมดาใช่หรือไม่
"บางทีคนมักจะคิดว่าอันนี้เป็นธรรมดาของคนแก่ เลยไม่คิดจะมาหาหมอ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะอาจมีโรคอื่นๆ ซ่อนอยู่แต่เริ่มแสดงออกให้เห็นด้วยเรื่องนี้ก่อน แนะนำว่ามาพบแพทย์นะครับ "ความสุขอยู่กับคุณได้เสมอ" นายแพทย์กวิวัช กล่าว
3. สามีดูจะเข้าข่ายภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ จะมีวิธีการรักษาได้อย่างบ้าง ถ้าไม่รักษาจะอันตรายหรือไม่ค่ะ
ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ED สิ่งแรกที่ต้องทำคือไปหาหมอใกล้บ้านของคุณ ทั้งนี้เพื่อค้นหาว่าอะไรที่เป็นต้นตอของปัญหาของคุณผู้ชาย แล้วจึงเริ่มแก้ปัญหาไปตามลำดับขั้น นายแพทย์กวิวัช ตันติวงษ์ แนะนำว่า “การรักษาเบื้องต้นต้องกำจัดหรือลดปัจจัยเสี่ยงให้น้อยที่สุด
คือจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ลดเกลือ ลดสุรา งดบุหรี่ หรือใช้เวลาคุยปรึกษาปัญหาชีวิตซึ่งเป็นการรักษาทางด้านจิตใจในกรณีที่ปัญหา "นกเขาไม่ขัน" มีสาเหตุจากด้านจิตใจ ซึ่งแพทย์จะช่วยลดความกังวล ที่สำคัญผู้ป่วยไม่ควรเขินอายเมื่อพบหรือสังสัยว่าตนเองเป็นโรค ED
ปัจจุบันมีแนวทางการรักษาที่สะดวกและปลอดภัย ด้วยการใช้ยาในการรักษา (Drug Therapy) ซึ่งมียารับประทานประเภท Vardenafil ยาตัวใหม่ในกลุ่มพีดีอีไฟท์อินฮิบิเตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในขณะเดียวกัน สำหรับผู้ที่เป็น ED ควรได้รับการตรวจระดับฮอร์โมนเพศชายด้วยเพราะส่งผลต่อกันและกัน หากมีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายร่วมด้วย ก็จำเป็นจะต้องรักษาควบคู่กันไป โดยการรับฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนทดแทน
ซึ่งปัจจุบันมีหลายวิธีให้เลือก รวมทั้งประเภทการรักษาด้วยการฉีดซึ่งจะฉีดทุกๆ 3 เดือน จัดเป็นการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการให้ฮอร์โมนเพศชายรูปแบบอื่นๆ ส่วนข้อสงสัยที่ว่า ถ้าไม่รักษาจะอันตรายหรือไม่ โรค ED จะไม่อันตรายถึงชีวิตแต่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบว่าโรค ED เป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงที่อันตรายต่อชีวิตอาทิ โรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน ดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น การมาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยภรรยามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ควรเป็นผู้ที่เข้าใจเขาที่สุดและแนะนำเขามาพบแพทย์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสามีและชีวิตคู่ที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง"
4. ผมอายุ 30 ปีกว่าๆ คิดว่าผมยังไม่มีอาการของโรค ED และไม่อยากเป็น ผมควรทำตัวยังไงครับ
นายแพทย์กวิวัช ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า แม้ว่าจะยังไม่เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เราสามารถป้องกัน หรือ ลดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยวิธีดังต่อไปนี้
การบริหาร "น้องชาย" ให้แข็งแรง
หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา
หยุดสูบบุหรี่
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ลดความเครียดและวิตกกังวล
ผักผ่อนให้เต็มที่
ตรวจร่างกายประจำปี
"ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงไม่ใช่เรื่องน่าเขินอาย และไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงมีความเข้าใจและกล้าเปิดใจ และแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ไม่ควรเก็บไปเครียดเพียงลำพัง และไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานมารับประทานหรือใช้เอง เพราะอาจอันตรายเกินแก้ไขได้" นายแพทย์ กวิวัช กล่าวสรุป