บขส. เล็งจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้เอ็นจีวี เพื่อนำมาทดแทนรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล จำนวน 800 คัน โดยจะใช้วิธีการเช่าซื้อ คิดเป็นวงเงินรวมทั้งหมด 8,147.66 ล้านบาท
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บขส. มีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้เอ็นจีวี เพื่อนำมาทดแทนรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล จำนวน 800 คัน โดยจะใช้วิธีการเช่าซื้อ คิดเป็นวงเงินรวมทั้งหมด 8,147.66 ล้านบาท |
. |
แบ่งเป็นค่าเช่าซื้อ 6,327.66 ล้านบาท และค่าซ่อม 1,820.00 ล้านบาท โดยมีกำหนดระยะเวลาเช่าซื้อ 4 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 — 2558 โดย บขส. จะนำเงินรายได้ของบริษัทชำระค่าเช่าซื้อดังกล่าว และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาเช่าซื้อรถโดยสารจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ บขส. |
. |
"ในการจัดหารถโดยสารใช้เอ็นจีวี จำนวน 800 คันนั้น เราได้เปรียบเทียบทั้งวิธีการเช่า ซื้อ และเช่าซื้อ ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าการเช่าซื้อเหมาะสมที่สุด เพราะบขส.สามารถนำรายได้จากการให้บริการมาชำระค่าเช่าซื้อรถโดยสารได้ ขณะที่สุดท้ายแล้วรถโดยสารดังกล่าวก็จะเป็นสินทรัพย์ของบขส.ด้วย" นายวุฒิชาติ กล่าว |
. |
สำหรับรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล จำนวน 800 คัน แบ่งเป็นรถโดยสารของ บขส. จำนวน 269 คัน มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 10 - 18 ปี และรถเช่าของ บขส. ซึ่งทยอยหมดอายุสัญญาเช่าตั้งแต่ปี 2550 — 2554 จำนวน 531 คัน ซึ่ง บขส. จำเป็นต้องจัดหารถใหม่มารองรับการให้บริการ โดยเห็นว่าการจัดหารถโดยสารใช้เอ็นจีวีมีความเหมาะสม เพราะนอกจากจะเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ด้วย |
. |
ปัจจุบัน บขส. ได้เสนอเรื่องดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)แล้ว คาดว่าประมาณกลางปี 2552 จะเริ่มดำเนินการได้ และเชื่อว่าประชาชนผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะส่วนใหญ่จะนิยมใช้บริการรถโดยสารของ บขส. เนื่องจากมั่นใจว่าการเดินทางกับ บขส. มีความปลอดภัย และยังมีประกันภัยให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่งด้วย |