เนื้อหาวันที่ : 2008-09-20 13:26:37 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1189 views

เรคกูเลเตอร์มีมติให้ขึ้นค่า Ft งวด ต.ค.-ธ.ค.อีก 14.85 สต./หน่วย

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรคกูเลเตอร์) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที) งวดใหม่อีก 14.85 สตางค์/หน่วย ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักผลิตไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ค่าเอฟทีงวดใหม่อยู่ที่ 77.70 สตางค์/หน่วย ประชาชนจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้ารอบใหม่ที่ 3.02 บาท/หน่วย

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรคกูเลเตอร์) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที) งวดใหม่อีก 14.85 สตางค์/หน่วย ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ค่าเอฟทีงวดใหม่อยู่ที่ 77.70 สตางค์/หน่วย ซึ่งประชาชนจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้ารอบใหม่ที่ 3.02 บาท/หน่วย

.

"ที่ประชุมฯ มีมติให้ปรับเพิ่มค่าเอฟทีงวดเดือนตุลาคมถึงธันวาคมจำนวน 14.85 สตางค์ต่อหน่วย" นายดิเรก ลาวัณย์ ประธานเรคกูเลเตอร์ กล่าว โดยอัตราค่าเอฟทีงวดนี้จะใช้สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าแค่ 3 เดือน คือ ต.ค.-ธ.ค.51 จากเดิมที่ต้องใช้สำหรับเดือน ต.ค.51-ม.ค.52 ซึ่งหลังจากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้วก็จะปรับไปคิดอัตราในระยะเวลา 4 เดือนตามปกติ

.

ประธานเรคกูเลเตอร์ กล่าวว่า สาเหตุที่ค่าเอฟทีงวดนี้ปรับขึ้นไม่มากจากเดิมที่จะต้องปรับค่าเอฟทีเพิ่มขึ้นถึง 57.22 สตางค์/หน่วย จากราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นถึง 23.43 บาทต่อล้านบีทียู จากเดิมราคาเฉลี่ยเดือนมิถุนายน-กันยายน 2551 อยู่ที่ 205.90 บาทต่อล้านบีทียู เป็น 229.33 บาทต่อล้านบีทียู ในรอบเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2551 ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่ปัจจุบันประเทศใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าเกือบ 70% ปรับสูงขึ้นอย่างมาก ขณะที่แนวโน้มราคาก๊าซยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องสะท้อนตามราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลงจาก 31.50 เป็น 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ก็มีส่วนทำให้ค่าเอฟทีปรับเพิ่มขึ้นด้วย

.

แต่คณะกรรมการฯ ได้มีมติให้นำส่วนต่างการจัดซื้อค่าก๊าซฯ จากค่า Take or Pay ปี 2551 จำนวน 3,600 ล้านบาท และค่าปรับที่คาดว่าจะเรียกเก็บจากปริมาณการแหล่งอาทิตย์ที่ขาดส่ง จำนวน 700 ล้านบาท รวม 4,300 บาท มาลดผลกระทบเอฟทีได้จำนวน 12.68 สตางค์ต่อหน่วย และให้มีการปรับเอฟทีรอบนี้เพิ่มขึ้นเพียงจำนวน 14.85 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงภาคอุตสาหกรรมในการผลิต

.

สำหรับส่วนต่างค่าเอฟทีที่คำนวณและเรียกเก็บที่เหลืออีกจำนวน 29.69 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นเงินประมาณ 10,058 ล้านบาท ให้ กฟผ.นำไปเรียกเก็บในการคำนวณเอฟทีในรอบต่อไป โดยได้มีการทำประมาณการจัดเก็บค่าเอฟทีในงวดต่อไปให้ครอบคลุมไปถึงสิ้นปีหน้าหรืออีก 3 งวด ให้จัดเก็บค่าเอฟทีในอัตราไม่เกิน 14.85 สตางค์ต่อหน่วย  แต่จะมีการคำนวณอัตราที่แน่นอนตามราคาเชื้อเพลิงในรอบนั้นอีกครั้งหนึ่ง

.

อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเดือนละ 150 หน่วยจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าเอฟทีครั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลืออยู่แล้ว