สบน.ชี้ขณะนี้ต้นทุนการกู้เงินต่างประเทศปรับสูงขึ้นไปอีก 0.3% หลังเกิดปัญหาการล้มละลายของบริษัทเลห์แมน บราเธอร์  โดยต้นทุนการกู้เงินขณะนี้ได้เพิ่มขึ้นจาก Libor บวก 1.4%จากก่อนหน้านี้ที่ไทยมีปัญหาการเมืองมาเป็น Libor บวก 1.7% แล้ว

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้นทุนการกู้เงินต่างประเทศปรับสูงขึ้นไปอีก 0.3% หลังเกิดปัญหาการล้มละลายของบริษัทเลห์แมน บราเธอร์  โดยต้นทุนการกู้เงินขณะนี้ได้เพิ่มขึ้นจาก Libor บวก 1.4%จากก่อนหน้านี้ที่ไทยมีปัญหาการเมืองมาเป็น Libor บวก 1.7% แล้ว

"ความเสี่ยงของไทยตอนนี้ ในสายตานักลงทุนมีทั้งเรื่องการเมืองในประเทศ และยังมีปัญหาของตลาดการเงินของโลก ทำให้ต้นทุนเงินกู้สูงขึ้น  ทำให้ตลาดเงินกู้ต่างประเทศเกือบปิดแล้วสำหรับไทย โดยเฉพาะภาคเอกชนที่จะออกไปกู้เงินนอก"นายพงษ์ภาณุ กล่าว

และจาการประชุมของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวานนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้รายงานว่าสภาพคล่องในประเทศยังมีเพียงพอ ต่อการระดมเงินทั้งของภาครัฐและเอกชน และ ธปท.กับ คลังจะต้องประสานงานกับเกี่ยวกับการจัดตารางการออกพันธบัตรในตลาด เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งตลาด และดูดซับสภาพคล่องเกินไป

อย่างไรก็ตาม นายพงษ์ภาณุ กล่าวยืนยันว่า กระทรวงการคลังยังไม่มีการปรับแผนการกู้เงินในปีงบประมาณ 2552 โดยเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทันที เป็นแผนการกู้เงินใหม่จำนวน 4.6 แสนล้านบาทเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและเพื่อลงทุนเมกะโปรเจ็คต์