นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน บมจ. ปตท.(PTT)และสหกรณ์แท็กซี่ 40 องค์กร ได้มีข้อตกลงร่วมกันให้ผู้ประกอบการแท็กซี่ที่ติดตั้งระบบก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี สามารถปรับเปลี่ยนเป็นระบบก๊าซธรรมชาติหรือเอ็นจีวีได้ฟรี โดยกำหนดเปิดติดตั้งได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ จากอู่รถ 22 แห่ง ซึ่งรับติดตั้งจำนวน 5,000 คันต่อเดือน หากรวมถึงสิ้นปีจะรับติดตั้งได้ทั้งสิ้น 20,000 คัน

ทั้งนี้ ปตท.และกระทรวงพลังงานจะสนับสนุนเงินสำหรับปรับเปลี่ยนรถแท็กซี่จากแอลพีจีเป็นเอ็นจีวีรวมกว่า 890 ล้านบาท โดยขณะนี้ ปตท.ได้เตรียมงบสำหรับช่วยเหลือค่าติดตั้งระบบเอ็นจีวีดังกล่าวไว้ 700-800 ล้านบาท ส่วนกระทรวงพลังงานเตรียมไว้ 90 ล้านบาท

หากเป็นรถแท็กซี่ใหม่ ปตท.จะช่วยเหลือค่าติดตั้ง 28,000 บาทต่อคัน ส่วนกระทรวงพลังงานช่วยเหลือ 12,000 บาทต่อคัน ส่วนรถเก่าที่ติดตั้งแอลพีจีอยู่แล้วและต้องการเปลี่ยนเป็นเอ็นจีวี ปตท.จะช่วยเหลือค่าติดตั้ง 40,000 บาทต่อคันและ กระทรวงพลังงานจะออกค่ารับซื้อถังเก่าคืนให้ 3,000 บาทต่อคัน

"คาดว่าจะมีผู้ประกอบการแท็กซี่มาปรับเปลี่ยนจากแอลพีจีเป็นเอ็นจีวีจำนวนมาก แต่อู่ที่มีจำกัดจะรับได้แค่ 5,000 คันต่อเดือนเท่านั้น ส่วนที่รถแท็กซี่ที่เหลือกว่า 20,000 คัน คงต้องค่อยเป็นค่อยไป และรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง" นายณอคุณ กล่าว

ในส่วนของ ปตท.จะติดตั้งถังเอ็นจีวีให้กับรถแท็กซี่เป็นระบบดูด ที่ดูแลรักษาง่าย เป็นถังขนาด 100 ลิตร บรรจุเอ็นจีวีได้ประมาณ 20 กิโลกรัมต่อถัง  และสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 240 กิโลเมตรในเขตกรุงเทพมหานคร  ส่วนในต่างจังหวัดสามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 300 กิโลเมตร เนื่องจากการจราจรไม่ติดขัด

นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันแท็กซี่ทั่วประเทศมีอยู่ 65,000 คัน ที่ติดตั้งเอ็นจีวีแล้ว 20,000 คัน และติดตั้งระบบแอลพีจี 45,000 คัน ทั้งนี้รถแท็กซี่ที่ต้องการเข้ารับการปรับเปลี่ยนเป็นระบบเอ็นจีวี ต้องติดต่อที่สหกรณ์แท็กซี่เท่านั้น ที่ 0-2287-3345 และ 0-2676-2800 ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์แท็กซี่