สมบูรณ์  แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) คาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีหลังจะลดลงมาอยู่ที่ 20% จาก 22%ในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากราคาเหล็กเกรดพิเศษที่บริษัทใช้เป็นวัตถุดิบปรับเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะปรับราคาขายขึ้นอีก 3-4% ในช่วงไตรมาส 3 นี้เพื่อชดเชยกับต้นทุนส่วนในปี 52 บริษัทได้เตรียมเงินลงทุน 1.2 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังผลิตโรงหล่อเป็น 4.5 พันตัน/เดือน และยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศจีน

นายวีระยุทธ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ SAT กล่าวว่า จากการที่ราคาเหล็กเกรดพิเศษที่บริษัทสั่งซื้อจากต่างประเทศในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น 30-40% เมื่อเทียบกับปีก่อนทำให้ต้องปรับราคาขายเพิ่มขึ้น 3-4% กับลูกค้าบางราย

อย่างไรก็ตาม การปรับราคาดังกล่าวคงไม่สามารถชดเชยการปรับลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ที่ครึ่งปีหลังจะลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีหลังที่ 22% และทั้งปีมองว่าจะอยู่ที่ 21%

ในส่วนของยอดขาย ยังเชื่อว่าเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อน 15% ซึ่งถือเป็นอัตราเติบโตที่มากกว่าอุตสาหกรรมที่มองว่าโต 10% เนื่องจากมองว่าการที่บริษัทมีสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะตัว Cam shaft ที่ได้ออเดอร์เพิ่มจากมิตซูบิชิ 100% และการส่งออกคอยล์สปริง 2 หมื่นชิ้น/เดือน ให้กับประเทศเกาหลี รวมถึงการที่บริษัทมีโรงหล่อที่ได้เทคโอเวอร์มาเมื่อปีก่อนที่กำลังการผลิตที่ 2.5 พันตัน/เดือน ทำให้ลดต้นทุนได้บางส่วน

นายวีระยุทธ กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทเตรียมงบลงทุน 1.2 พันล้านบาท สำหรับปี 52 ในการสั่งซื้อเครื่องจักรและเพิ่มกำลังผลิตโรงหล่อ เป็น 4.5 พันตัน/เดือน เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ๆ โดยเฉพาะคูโบต้ากับฮีโน่ ซึ่งเม็ดเงินที่ใช้ลงทุนจะมาจากการกู้ 80 % และเงินทุนบริษัท 20% และคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขาย 1.5 พันล้านบาท/ปี ในปี 54

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาในการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ด้วยการตั้งบริษัทขึ้น โดยเบื้องต้นมองว่าจีนมีศักยภาพ แต่จะตัดสินใจในอีก 1-2 ปีข้างหน้าว่าจะเป็นรูปแบบใด นอกจากนี้อยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มเติมการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่จะปรับเปลี่ยนไปในอนาคตโดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนขณะที่ตัวรถจะเบาลง