ตลาดรถยนต์รวมทุกประเภทเจ็ดเดือนแรกของปี 2551 เพิ่มขึ้น 6.57% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 366,246 คัน โตโยต้ามาเป็นอันดับ 1 คือ 156,410 คัน คิดเป็น 42.71% อีซูซุเป็นอันดับ 2 คือ 79,926 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 21.82% และฮอนด้าเป็นอันดับ 3 ด้วยยอดจำหน่าย 49,850 คัน คิดเป็น  13.61%

อย่างไรก็ตามยอดจำหน่ายรวมทุกประเภทเฉพาะในเดือนกรกฎาคมนั้น ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความผันผวนด้านการเมืองยังคงทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจซื้อ  ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ในเดือนกรกฎาคมลดลงถึง 10.65% เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายของเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยรถยนต์รวมทุกประเภท จำหน่ายได้  44,772 คัน โตโยต้ามาเป็นอันดับ 1 คือ 20,349 คัน คิดเป็น 45.45% อีซูซุเป็นอันดับ 2 คือ 8,735 คัน มีส่วนแบ่งตลาด19.51% และฮอนด้าเป็นอันดับ 3 ด้วยยอดจำหน่าย 6,724 คัน คิดเป็น  15.02%

รถปิกอัพขนาด 1 ตันในเดือนกรกฎาคมนี้ มียอดจำหน่ายรวม  20,910 คัน ลดลง 15.33% เมื่อเทียบกับ ยอดจำหน่ายของเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โตโยต้าจำหน่ายได้สูงสุด คือ 9,516 คันมีส่วนแบ่งตลาด 45.51% ตามมาด้วยอีซูซุจำหน่ายได้ 8,168 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 39.06% และนิสสันมาเป็นอันดับ 3 ด้วยยอดจำหน่าย 1,394 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 6.67%

สำหรับตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเดือนกรกฎาคมนี้ ลดลงจากเดือนมิถุนายน 6.33% โดยทุกยี่ห้อ จำหน่ายได้รวมกัน 19,280 คัน โตโยต้าจำหน่ายได้สูงสุด 9,541  คัน คิดเป็น 49.49% ฮอนด้าจำหน่ายได้เป็นอันดับ 2 จำนวน 6,189 คัน คิดเป็น32.10% และเชฟโรเลตจำหน่ายได้เป็นที่ 3 คือ 1,204 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.24%

ส่วนยอดจำหน่ายของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเจ็ดเดือนแรกของปีนี้รวมทั้งสิ้น 129,699 คันเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 31.65% โตโยต้าจำหน่ายได้เป็นอันดับ 1 ด้วยยอดจำหน่าย 63,559 คัน คิดเป็น 49.01% ฮอนด้ามาเป็นอันดับ 2 ด้วยยอดจำหน่าย 43,689 คัน ส่วนแบ่งตลาด 33.68%และเชฟโรเลตจำหน่าย ได้เป็นอันดับ 3 คือ จำหน่ายได้  6,606 คัน คิดเป็น 5.09%