สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานภาคเอกชนของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.2551 ปรับตัวลดลง 2.6% จากเดือนพ.ค. แตะที่ระดับ 1.08 ล้านล้านเยน (9.9 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งนับเป็นการร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน แต่ตัวเลขดังกล่าวยังปรับตัวลดลงน้อยว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 9.6% หลังจากที่ขยายตัว 10.4% ในเดือนพ.ค.

ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานที่ปรับตัวลดลงแสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวด้านการลงทุนของบริษัทเอกชนที่ซบเซาในยามที่หลายบริษัทต้องเผชิญกับปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น  และแม้ว่าจะเผชิญช่วงภาวะขาลง แต่ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรภาคเอกชนไตรมาสที่ 2 ขยายตัวขึ้น 0.6% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ในไตรมาสก่อนหน้านี้ว่าจะร่วงลง 10.3%

สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมยอดสั่งซื้อเรือและอุปกรณ์ไฟฟ้า ถือเป็นดัชนีชี้นำการใช้จ่ายเงินทุนของภาคเอกชน  โดยในเดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพุ่งขึ้น 9.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาหลังจากขยายตัวขึ้น 5.1% ในเดือนพ.ค.

ขณะที่ยอดสั่งซื้อภาคการผลิตไต่ระดับขึ้น 3.9% จากเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้น 13.8% จากปีก่อนหน้านี้ ส่วยยอดสั่งซื้อนอกภาคอุตสาหกรรมการผลิตลดลง 3.3% ต่อเดือน แต่ทะยานขึ้น 12.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าโดยรวมดิ่งลง 4.8% แตะที่ 2.70 ล้านล้านเยนในเดือนมิ.ย. แต่กระเตื้องขึ้น 4.9% จากปีที่ผ่านมา