เนื้อหาวันที่ : 2008-07-28 17:24:15 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1345 views

ปตท. มีข่าวดี นำลดราคาน้ำมันดีเซลต่อเนื่องอีก 80 สตางค์

จากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้อ่อนตัวลงก่อนหน้านี้ ปตท. จึงได้พิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลลง 80 สตางค์/ลิตร ให้ผู้บริโภคอีกครั้งทันที นับเป็นการลดราคาน้ำมันต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท.ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค. 51

มีผลทันทีพรุ่งนี้ นับเป็นการลดราคาน้ำมันต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 ในรอบเดือนนี้

.

นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกแม้มีทิศทางที่อ่อนตัวลง แต่ก็ยังคงมีความผันผวน ล่าสุดในวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบและสำเร็จรูปในตลาดโลกได้กลับมาปรับตัวสูงขึ้น โดยน้ำมันดูไบ ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 122.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 123.77 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซล ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 154.35 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล สืบเนื่องมาจากอิหร่านเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งสวนทางกับข้อตกลงเดิม

 .

อย่างไรก็ตาม จากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้อ่อนตัวลงก่อนหน้านี้ ปตท. จึงได้พิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลลง 80 สตางค์/ลิตร ให้ผู้บริโภคอีกครั้งทันที นับเป็นการลดราคาน้ำมันต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท.ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค. 51 เป็นดังนี้

 .

         หน่วย : บาท/ลิตร 

         น้ำมันเบนซิน พีทีที E20 พลัส 29.79 

         น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 31.09 

         น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 30.29 

         น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 38.59 

         น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 37.44

         น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 37.94

 

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ปตท. ไม่เคยนิ่งนอนใจกับสภาวะราคาน้ำมันแพง โดยจะปรับลดราคาน้ำมันให้ประชาชนทันทีตามราคาตลาดโลกที่ลดลง เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน การลดราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 7 ทั้งกลุ่มน้ำมันดีเซลและกลุ่มน้ำมันเบนซิน รวมลดราคาลงไปแล้ว 6.30 - 8.10 บาท/ลิตร (วันที่ 10, 11, 18, 20, 22, 25 และ 29 ก.ค.ศกนี้) อย่างไรก็ตามมาตรการประหยัดพลังงานและใช้พลังงานทางเลือกยังคงเป็นแนวทางที่ทุกคนควรยึดถือปฏิบัติ เพื่อช่วยลดภาระของตนเองและของประเทศ