นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า จากภาวะที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น ทำให้ผู้ค้าน้ำมันเกิดแรงจูงใจลักลอบนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศมาจำหน่าย หรือมีการนำสารโซลเวนท์และน้ำมันชนิดอื่นที่มีราคาถูกกว่ามาปลอมปนในน้ำมันเพื่อลดต้นทุน ทำให้น้ำมันไม่ได้มาตรฐาน

โดยจากที่กรมธุรกิจพลังงาน มีมาตรการในการกำกับดูแลคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ทางกรมธุรกิจพลังงานได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถยนต์ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงเคลื่อนที่ (Mobile Lab) ออกปฏิบัติงานตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงทุกผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ณ สถานีบริการในเขตพื้นที่ต่างๆแล้ว ทั่วประเทศ

ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 ถึง เดือนมิถุนายน 2551 รวมทั้งสิ้น 4,268 ราย 7,742 ตัวอย่าง ตรวจพบการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพไม่เป็นไปตามประกาศกรมธุรกิจพลังงานกำหนด จำนวน 57 ราย 59 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 1.34 และ 0.76 ของสถานีบริการและตัวอย่างน้ำมันที่ตรวจสอบ ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ตรวจพบเป็นสถานีบริการอิสระ โดยพบผิดเนื่องจากมีการปลอมปนสารโซลเวนท์และเป็นการลักลอบนำน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากต่างประเทศมาจำหน่ายมากขึ้น

กรมธุรกิจพลังงานจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยผู้กระทำการปลอมปนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อจำหน่าย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนในกรณีที่ผู้กระทำการปลอมปน เป็นผู้ค้าน้ำมันหรือผู้ขนส่งน้ำมันต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ สารโซลเวนท์ ที่นำมาปลอมปนในน้ำมันเบนซินและดีเซลนั้น สามารถละลายได้ดีในน้ำมัน จึงไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า การปลอมปนน้ำมันด้วยสารโซลเวนท์ไม่มีสัดส่วนที่แน่นอน ซึ่งจากการทดสอบพบว่าหากผู้ค้าเติมโซลเวนท์ในน้ำมันในอัตราไม่ถึง 15 %การเกิดปัญหากับเครื่องยนต์เห็นได้ไม่ชัดเจนทันที แต่หากเติมโซลเวนท์ถึง 50%จะทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหาได้ ผู้ค้าบางรายต้องการกำไรมากอาจเติมในสัดส่วน 1 ต่อ 1 ซึ่งอาจจะก่อผลกระทบรุนแรง

เนื่องจากสารโซลเวนท์มีค่าออกเทนต่ำมากเพียง 60 - 70 ในขณะที่รถเครื่องยนต์เบนซินต้องการออกเทนสูงถึง 87 - 95 จึงเป็นเหตุให้เครื่องยนต์เกิดการน็อค เสียหาย และทำให้เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้นเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่อาจเกิดอุบัติเหตุในขณะเร่งแซง