บมจ.ปตท (PTT) คาดรายได้ในไตรมาส 2/51 จะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/51 ตามราคาน้ำมันที่พุ่งเป็นกว่า 120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากต้นปีที่อยู่ในระดับประมาณ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ในแง่ของค่าการกลั่นเฉลี่ยทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล(ไม่รวม stock gain)ซึ่งค่าการกลั่นในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก

นายพิชัย ชุณหวชิร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินและบัญชีองค์กร PTT กล่าวว่า แม้ว่ากำไรของบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากการที่ ปตท.ต้องรับภาระอุดหนุนราคาน้ำมันและก๊าซในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยเฉพาะจากค่าการกลั่นที่ยังทรงตัวในระดับสูงใกล้เคียงปีก่อนที่ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยในครึ่งปีหลังยังทรงตัวอยู่ได้ เนื่องจากกำลังผลิตที่จะเพิ่มเข้ามาจากโรงกลั่นในอินเดีย น่าจะมีผลในปีต่อ ๆ ไป ซึ่งจะทำให้แนวโน้มค่าการกลั่นในอนาคตปรับตัวลดลง ดังนั้น บริษัทก็จะต้องมีการปรับตัวและปรับแผนธุรกิจเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว

นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทจะมีการปรับโครงสร้างหนี้(รีไฟแนนซ์)ตามแผนงานที่ได้ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นไว้ในวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอายุเงินกู้เฉลี่ยทั้งหมดของปตท.อยู่ที่ 8 ปี หากมีการรีไฟแนนซ์ก็จะน้นขยายระยะเวลาการกู้ให้ยาวขึ้น และมีโครงสร้างของเงินดอลลาร์เพิ่มมากขึ้นด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับฝั่งรายได้ที่เป็นดอลลาร์

นายพิชัย กล่าวอีกว่า การเติบโตของธุรกิจเครือปตท.ยังเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) ซึ่ง ล่าสุด พบปริมาณก๊าซในแหล่ง M9 เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องเพิ่มวงเงินลงทุนอีกราว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากแผนการลงทุนระยะ 5 ปีเดิมที่กำหนดไว้ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ และปีนี้ปริมาณการผลิตของ PTTEP ก็จะอยู่ที่ 2.2 แสนบาร์เรล/วันเที่ยบเท่าน้ำมันดิบ จากปีก่อน 1.79 แสนบาร์เรล/วันเทียบเท่าน้ำมันดิบ

ด้านธุรกิจก๊าซของ ปตท.ก็ยังลงทุนต่อเนื่อง โดยได้มีการสรุปแนวเส้นทางและการลงทุนวางท่อก๊าซเส้นที่ 4 แล้ว ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการขนส่งก๊าซเพิ่มเป็น 6.2 พันตัน/วัน จากปัจจุบันที่ 3.1 พันตัน/วัน และเตรียมตั้งโรงแยกก๊าซธรรมชาติเพิ่มจากปัจจุบันมี 5 โรง กำลังผลิต 4.2 ล้านตัน/ปี และได้สรุปแผนสร้างโรงแยกก๊าซฯ ที่ 6 จะทำให้มีกำลังผลิต 6 ล้านตัน/ปี

ส่วนโรงแยกก๊าซฯ แห่งที่  7 ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะสร้างที่ใด แต่ก็มีทางเลือกที่เป็นไปได้คือการสร้างที่เซาท์เทิร์นซีบอร์ด หรือลงทุนสร้างใกล้แหล่งก๊าซในพม่า

นายวิชัย แสดงความเห็นถึงราคาหุ้น PTT ที่ปรับลดลงในระยะนี้ว่า ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการเข้าไปอุดหนุนราคาน้ำมันในประเทศให้กับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับผลที่จะมีต่อกำไรของบริษัท ประกอบกับปัญหาการเมืองในประเทศที่กระทบบรรยากาศการลงทุนโดยรวม ทำให้นักลงทุนในประเทศเทขายเพื่อรอความชัดเจนในอนาคต แต่บริษัทก็พยายามชี้แจงและสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนในระยะยาว