ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก เปิดดำเนินการศูนย์กระจายสินค้าทางอากาศในเพิ่มการขยายช่องทางสู่เส้นทางการค้าระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ มุ่งบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของดีเอชแอลกระจายสินค้าหลักในยุโรปของเครือข่ายทั่วโลก

ที่สนามบินไลพ์ซิก/ฮัลเล ประเทศเยอรมนี ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้เป็นหนึ่งในอาคารก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ซึ่งสามารถช่วยขยายเครือข่ายระหว่างประเทศของดีเอชแอล เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อกับการเติบโตของตลาดต่างๆ ทั่วโลกได้มากขึ้น และยังช่วยให้ดีเอชแอลสามารถปรับปรุงภาพรวมด้านการบริการให้กับลูกค้า

มร. จอห์น มัลเลน ประธาน ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ดร. แฟรงค์ อัพเพล ประธานคณะกรรมการฝ่ายบริหาร ดอยช์ โพสต์ เวิลด์ เน็ต มร. สก๊อตต์ ไพรซ์ ประธาน ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประจำภาคพื้นยุโรป พร้อมทั้ง รัฐมนตรีเยอรมันหลายท่านซึ่งรวมถึง มร. ฟรังค์-วอลเทอร์ ชไตน์-ไมเออร์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมทำพิธีเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่นี้

มร. จอห์น มัลเลน ประธาน ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส กล่าวในพิธีเปิดว่า "ความต้องการการบริการขนส่งด่วนกำลังเติบโตขึ้นทั่วโลกและเราได้ตัดสินใจลงทุนในด้านเครือข่ายระหว่างประเทศเพื่อตอบความต้องการนี้ ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาสูงสุดนี้จะทำให้เราสามารถมอบการบริการที่ดีที่สุด ทั้งในด้านคุณภาพและการเข้าถึงลูกค้าของเราได้อย่างต่อเนื่อง ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในศูนย์กระจายสินค้าที่ก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่สุดในอุตสาหกรรม ด้วยอุปกรณ์คัดแยกที่ดีที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังทำให้เรารักษาตำแหน่งและเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นในฐานะผู้นำตลาดด้านบริการขนส่งด่วนในยุโรป และในระดับโลกอีกด้วย"

.

ดอยช์ โพสต์ เวิลด์ เน็ต ได้ลงทุนประมาณ 300 ล้านเหรียญยูโร ในการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าการขนส่งทางอากาศของดีเอชแอล ไลพ์ซิก/ฮัลเล ที่ยกระดับด้านความรวดเร็ว ความสามารถในการเชี่อมต่อ และการเข้าถึงได้ในหลายๆช่องทางของดีเอชแอล โดยตั้งอยู่ที่จุดศูนย์กลางเพื่อให้การบริการเข้าถึงได้โดยตรงจากเหนือ-ใต้ ตะวันออก-ตะวันตก สู่ทวีปยุโรป และเชื่อมโยงตลาดทั้งที่มีอยู่แล้วและที่กำลังเกิดใหม่ในยุโรปกลาง ยุโรปตะวันออก ตลอดจนเอเชียเข้าด้วยกัน

หลักเกณฑ์ในการเลือกทำเลที่ตั้งคือ ตำแหน่งของสนามบิน ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับตลาดที่เติบโตในยุโรปตะวันออก แผนระยะยาวเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยในการอนุญาตสำหรับเที่ยวบินกลางคืน บุคลากรท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยมและพร้อมที่จะให้บริการ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่พร้อมจะรองรับการรวมกันของการให้บริการขนส่งทางอากาศ ทางถนน และทางรถไฟในอนาคต

มร. สก๊อตต์ ไพรซ์ ประธาน ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประจำภาคพื้นยุโรป กล่าวเสริมว่า “จากการย้ายที่ตั้งของศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ของเรา ทำให้ขณะนี้เราสามารถให้บริการขนส่งชิปเม้นท์ที่รวดเร็วขึ้น และมอบบริการไพรม์ เอ็กซ์เพรส (prime express services) ซึ่งเป็นบริการใหม่ล่าสุดของเรา สู่ช่องทางการค้าที่มากกว่าแต่ก่อน ร่วมกับเส้นทางเข้าสู่ยุโรปตะวันออกและเอเชียที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ประกอบด้วย ศูนย์กระจายสินค้าซึ่งมีระบบคัดแยกที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเยอรมนี โรงเก็บเครื่องบิน ลานจอดเครื่องบิน สถานีบริการน้ำมัน และอาคารการจัดการ ในขณะนี้จำนวนของสินค้าที่ถูกถ่ายเทขนส่งในหนึ่งวันทำการมีประมาณ 1,500 ตันต่อคืน และจะเพิ่มเป็น 2,000 ตัน ในปี พ.ศ.2555

.

ศูนย์กระจายสินค้า ไลพ์ซิก เป็นศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรกของดีเอชแอลที่สามารถอำนวยความสะดวกและตอบรับความต้องการเรื่องกระแสไฟฟ้าและพลังงานอย่างเพียงพอด้วยตนเอง ทั้งในเรื่องพลังงานความร้อนและความเย็น สิ่งที่ทำให้เรามั่นใจได้แก่ หน่วยการผลิตร่วมสำหรับการผลิตพลังงานความร้อนและกระแสไฟฟ้าร่วม รวมทั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของโรงเก็บเครื่องบินขนาด 1,000 ตารางเมตรเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนั้น ยังมีถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ใต้ดินสองถัง ที่แต่ละถังมีความจุ 300 ลูกบาศก์เมตร ทุกปีสามารถกักเก็บน้ำฝนได้ประมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถนำมาใช้ล้างเครื่องบินได้อีกด้วย

"ความสำเร็จของธุรกิจดีเอชแอลมาจากหลายๆ ปัจจัย แต่หนึ่งปัจจัยที่สำคัญเป็นพิเศษในสถานการณ์ปัจจุบันคือ ความสามารถของเราที่สามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปัจจุบันเราเน้นการนำเอาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ต่างๆ มาใช้เพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสเป็นบริษัทขนส่งด่วนและลอจิสติกส์แห่งแรกที่มุ่งเน้นในเรื่องการใช้คาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างจริงจัง ดังนั้น ที่ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่นี้ เราได้ดำเนินการหลายด้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยให้เราบรรลุผลการพัฒนาที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต" มร. จอห์น มัลเลน กล่าวสรุป