ผลการศึกษาของออกซ์แฟมเผยให้เห็นว่า นโยบายด้านเชื้อเพลิงชีวภาพของประเทศร่ำรวยกำลังทำให้ประชาชนหลายล้านคนในประเทศกำลังพัฒนายากจนลง ออกซ์แฟม ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไร ได้เปิดเผยรายงานในช่วงเวลาที่ผู้นำจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ หรือ จี8 กำลังจะอภิปรายกันเพื่อหาทางลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในการประชุมสุดยอดที่ญี่ปุ่น เดือนก.ค.นี้ |
. |
ผลการศึกษาดังกล่าวรายงานโดยอ้างการคาดการณ์ของธนาคารโลกว่า ราคาอาหารได้ปรับตัวสูงขึ้นถึง 83% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นหายนะสำหรับผู้ยากไร้ทั่วโลก "ชีวิตของประชากรประมาณ 290 ล้านคนตกอยู่ในอันตรายโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากวิกฤติอาหาร" ผลการศึกษาระบุ |
. |
การศึกษาระบุว่า ราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นมีสาเหตุมาจากการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพคิดเป็นสัดส่วน 30% และระบุว่าเชื้อเพลิงชีวภาพได้กดดันให้ประชาชน 30 ล้านคนยากจนลงแล้วในตอนนี้ |
. |
"เชื้อเพลิงชีวภาพในปัจจุบันไม่ได้แก้ปัญหาสภาพอากาศหรือวิกฤติพลังงาน แต่กลับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงด้านอาหารและเงินเฟ้อ โดยคนยากจนเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบหนักสุด" ร็อบ บาลลีย์ ผู้เขียนรายงานฉบับนี้กล่าว |
. |
รายงานผลการศึกษากล่าวโทษประเทศร่ำรวยว่าเป็นต้นเหตุของวิกฤตการณ์ โดยระบุว่า เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงชีวภาพโดยสหรัฐอเมริกาและยุโรปนั้น กำลังทำให้คนยากจนในประเทศกำลังพัฒนาไม่มีอาหารประทังชีวิต |
. |
รายงานยังชี้แนะด้วยว่า ประเทศร่ำรวยควรระงับการใช้กฎหมายเกี่ยวกับพลังงานชีวภาพในอนาคต และยกเลิกการให้เงินอุดหนุนและการยกเว้นภาษีเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อช่วยให้ประชาชนไม่ยากจนลงไปมากกว่านี้ สำนักงานซินหัวรายงาน |