เนื้อหาวันที่ : 2008-06-25 14:33:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1419 views

ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กฯเกือบทั้งหมดสอบตกในการเป็นผู้ผลิตสีเขียว

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศทั่วโลกปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รวมประมาณร้อยละ 2 ของปริมาณทั้งหมดที่ปล่อยทั่วโลก โดยมากเท่ากับอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งถือว่าสูงมาก

.

การจัดอันดับผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียวฉบับล่าสุดของกรีนพีซ ได้เพิ่มหลักเกณฑ์ด้านพลังงานและผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมกับหลักเกณฑ์เดิมที่ใช้ในการประเมินจัดอันดับในฉบับที่ผ่านๆ มา คือ เกณฑ์การเลิกใช้สารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์และการรับผิดชอบต่อขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ของตน หลักเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นทำให้ผู้ผลิตได้คะแนนลดลงจากเดิมมาก ซึ่งมีเพียงโซนี-อิริคสัน และโซนีเท่านั้นที่ได้มากกว่า 5 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน

.

หลักเกณฑ์ด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นมา ยังได้ประเมินถึงความร่วมมือในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามพิธีสารเกียวโต ซึ่งผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกควรมีบทบาทในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตของตน แต่ผู้ผลิตหลายรายยังเพิกเฉยต่อประเด็นนี้โดยเน้นเพียงด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์ เท่านั้น ซึ่งขณะนี้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศทั่วโลกปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รวมประมาณร้อยละ 2 ของปริมาณทั้งหมดที่ปล่อยทั่วโลก โดยมากเท่ากับอุตสาหกรรมการบิน  ซึ่งถือว่าสูงมาก

.

ประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตหลายรายในปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะโซนี-อิริคสันและแอ็ปเปิ้ล ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานการประหยัดพลังงานของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้โซนี-อิริคสัน ยังเป็นผู้ผลิตรายแรกที่เริ่มมีผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษในผลิตภัณฑ์แล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดจากสารพีวีซี (PVC) แอนติโมนี (antimony) แบรีเลี่ยม (beryllium) และพลาฟาเลท (phthalates) เป็นต้น

.

"ผู้ผลิตส่วนมากขาดการบูรณาการในการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อม คือเน้นปฏิบัติเพียงบางด้านเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ฟิลิปส์ ซึ่งมีการปฏิบัติที่ดีด้านควบคุมสารพิษและประหยัดพลังงาน แต่ยังขาดความรับผิดชอบอย่างสิ้นเชิงต่อขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ของตน น่าเสียดายที่ฟิลิปส์ยังไม่สามารถก้าวเป็นผู้นำผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียวได้จริงตามที่กล่าวอ้างโฆษณา เนื่องจากยังไม่รับผิดชอบในการรับหรือรวบรวมผลิตภัณฑ์ของตนกลับคืนหลังเสื่อมสภาพเพื่อนำไปรีไซเคิลและกำจัดอย่างถูกวิธี"  อิซา ครูซซิซากา ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซสากลกล่าว 

.

กรีนพีซจัดอันดับผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียวอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยผลักดันให้เกิดการแข่งขันพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษอันตราย และเพิ่มอัตราการรีไซเคิลของขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำวัตถุดิบกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตและที่สำคัญผลักดันให้ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีส่วนในการลดผลกระทบปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากกระบวนการผลิตของตน ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาทุกจุดที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การผลิตถึงสิ้นสุดการใช้งาน (Cradle-to-grave)

.

"การที่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีอัตราการเติบโตสูงนั้นจะส่งผลอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะต่อการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงปัญหาจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ผลิตต้องปรับปรุงนโยบายและมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครอบคลุมทุกด้าน  ซึ่งนอกจากจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจนถึงกลายเป็นขยะหลังการใช้งานแล้ว ยังเป็นการทำให้สินค้าของตนได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้น" นายพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว