หลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียง 6 เดือน ผู้บริหาร เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มั่นใจกระตุ้นความสนใจนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน หลังติดโผหุ้นขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง พร้อมตอกย้ำพื้นฐานแน่น
. |
หุ้น MJD ติดรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET100 หลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียง 6 เดือน ผู้บริหาร เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มั่นใจกระตุ้นความสนใจนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน หลังติดโผหุ้นขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง พร้อมตอกย้ำพื้นฐานแน่น ยันความผันผวนของเศรษฐกิจ-การเมือง ไม่กระทบธุรกิจ ระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน จับระดับไฮเอนด์ กำลังซื้อสูงหนุนรายได้ |
. |
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้คัดเลือกหุ้น MJD ให้เป็นหนึ่งในหุ้นที่ใช้คำนวณดัชนีราคาหุ้น 100 หลักทรัพย์ หรือ SET100 ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2551 (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2551) นั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า MJD เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมหรือ Market Capitalization สูง และมีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนที่เข้ามาลงทุน โดยเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัทฯ นั้น นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี |
. |
"การที่หุ้น MJD ถูกนำไปคำนวณรวมใน SET100 นั้น เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากจะทำให้นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบัน สนใจหุ้น MJD มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของกองทุนในประเทศที่มีการลงทุนในลักษณะตามดัชนี ก็จะกระจายการลงทุนมาในหุ้น MJD มากยิ่งขึ้นด้วย" นายสุริยน กล่าว |
. |
ทั้งนี้ หุ้น MJD เพิ่งเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2550 ซึ่งที่ผ่านมาบรรดานักวิเคราะห์หลักทรัพย์ อาจจะยังไม่ได้เข้ามาติดตามข้อมูลของ MJD อย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักไปที่หุ้นในกลุ่มที่ใช้คำนวณ SET50 และ SET100 ก่อน โดยคาดว่าหลังจากนี้ นักวิเคราะห์จะติดตามข้อมูลของ MJD ไปนำเสนอมากขึ้นด้วย |
. |
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันสภาพเศรษฐกิจ และการเมืองที่ผันผวนในขณะนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ แต่อย่างใด เนื่องจากว่า MJD มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก เพราะโครงการของบริษัทฯ เป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งที่ผ่านมายอดขายก็เป็นที่น่าพอใจ เพราะว่าทุกโครงการของบริษัทฯ มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง บวกกับความน่าเชื่อถือในเรื่องศักยภาพของทำเลที่ตั้ง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย |
. |
นอกจากนี้ ในส่วนของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าก่อสร้างมากนัก ซึ่ง MJD เน้นการควบคุมต้นทุนการผลิต โดยที่ทุกโครงการบริษัทฯ ทำสัญญาให้ผู้รับเหมาก่อสร้างหลักรับเหมาและ เป็นคนรับภาระในการคำนวณต้นทุนการก่อสร้างไปหมดแล้ว ทำให้บริษัทฯ สามารถกำหนดราคาขาย และตั้งเป้ากำไรของแต่ละโครงการได้ใกล้เคียง ซึ่งในส่วนนี้นับว่าเป็นการลดความเสี่ยงให้กับบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี บวกกับบริษัทฯ ยังได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐอีกด้วย สาเหตุเหล่านี้ทำให้กลุ่มลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ |
. |
ล่าสุด MJD ได้เปิดตัวโครงการ "รีเฟล็คชั่น จอมเทียน บีช พัทยา" คอนโดมิเนียมสูง 55 ชั้น และ 42 ชั้น จำนวน 332 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,300 ล้านบาท ซึ่งเป็น ซุปเปอร์ ลักชัวรี่ คอนโดมิเนียม แห่งแรกในเมืองพัทยา และเป็นโครงการที่ 3 ของปีนี้ จะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าระดับ A+ ปัจจุบันมียอดขาย Presale เป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้ทางบริษัทฯ มีแผนจะไปนำเสนอข้อมูลของโครงการ (โรดโชว์) ในประเทศกลุ่มเป้าหมายของตลาดเมืองพัทยา ในแถบสแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และจีน |
. |
ส่วนอีก 2 โครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ โครงการรอยซ์ไพรเวท เรสซิเดนท์ส สุขุมวิท 31 ซึ่ง MJD ได้ร่วมทุนกับบริษัทในเครือ เอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท อินเวสต์เม้นต์ (AIG) มูลค่า 3,000 ล้านบาท และโครงการ |
. |
"สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2551 บริษัทฯ คาดว่าน่าจะออกมาดีกว่าไตรมาสที่ 1/2551 ที่มีรายได้รวม 614.52 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 107.60 ล้านบาทโดยบริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้จากการขายโครงการเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/51 เนื่องจากทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และมีความเชื่อมั่นในตลาดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งเป็นลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อมาก ประกอบกับบริษัทมีการปรับขึ้นราคาขายทุกโครงการที่เปิดดำเนินการขายอยู่ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าว |
. |
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเน้นการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม เนื่องจากยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย ในขณะที่การพัฒนาโครงการในต่างจังหวัด จะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการในเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เช่น หัวหิน และพัทยา เนื่องจากมีความต้องการที่พักตากอากาศและกำลังซื้อสูงตามจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี |