นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะปล่อยให้ราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด โดยสินค้าบางรายการอาจต้องปรับขึ้นราคา แต่จะยังอยู่ในเกณฑ์ราคาควบคุมของกรมการค้าภายในอย่างใกล้ชิด 

"ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการพิจารณาต้นทุนสินค้าพบว่าส่วนใหญ่มีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จึงไม่สามารถที่จะขยายระยะเวลาการลดราคาสินค้าตามโครงการดังกล่าวต่อไปได้ ดังนั้นจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดในการแข่งขันของแต่ละกลุ่มสินค้า" รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุ

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือจากผู้ผลิตให้ตรึงราคาสินค้าหมวดของใช้ในชีวิตประจำวัน 60 รายการ เป็นระยะเวลา 3 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย.51 ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและเป็นภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการ

โดยวันนี้ กรมการค้าภายในได้ประชุมร่วมกับกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าในหมวดของใช้ในชีวิตประจำวัน 6 ราย คือ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง(พีแอนด์จี), บริษัท ไลอ้อน(ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ จำกัด, บริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล จำกัด, บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด และบริษัท ยูนิลีเวอร์ จำกัด ซึ่งทั้ง 6 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในสินค้าประเภทดังกล่าวรวมกันถึง 90%

ด้านนายประพจน์ นันทวัฒน์ศิริ นายกสมาคมสบู่ ผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์ชำระล้างไทย เปิดเผยว่า ผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่มีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นกว่า 40% จากผลกระทบราคาน้ำมันและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต แต่ทั้งนี้ทางกลุ่มจะเลี่ยงการปรับขึ้นราคาแต่จะหันไปใช้วิธีการปรับลดขนาดหรือปริมาณสินค้าแทน เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการได้อีกทางหนึ่ง