สมาคมผู้ค้ารถยนต์ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ รถบรรทุก และรถบัสในญี่ปุ่นเดือนพ.ค.ปรับตัวลงเป็นครั้งแรก เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคลังเลที่จะซื้อรถใหม่

ในเดือนเม.ย. ผู้บริโภคซื้อรถใหม่กันอย่างคับคั่งหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศระงับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมน้ำมันเบนซินชั่วคราว ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยปรับตัวลดลงกว่า 20 เยน/กิโลลิตร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเริ่มกลับมาเก็บค่าธรรมเนียมอีกครั้งในช่วงต้นเดือนพ.ค.

ด้วยเป้าหมายที่จะกระตุ้นความต้องการให้เพิ่มขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของญี่ปุ่นยังคงเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แต่ก็ไม่สามารถดึงดูดผู้บริโภคให้เข้าซื้อได้มากนัก โดยบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 12 รุ่นเมื่อ 12 เดือนที่แล้ว ขณะที่บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ เปิดตัวรถยนต์ Fit ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาดเล็กและขายที่ที่สุด และบริษัทนิสสัน มอเตอร์ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 5 รุ่น ซึ่งรวมถึง Skyline Coupe และรถยนต์สปอร์ต GT-R

ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ รถบรรทุก และรถบัส รวมกันลดลง 6.1% แตะระดับ 221,377 คัน หลังจากพุ่งขึ้น 63.9% ในเดือนเม.ย. โดยยอดขายรถยนต์ลดลง 4.4% แตะระดับ 190,695 คัน ยอดขายรถบัสเพิ่มขึ้น 13.9% แตะระดับ 1,023 คัน และยอดขายรถบรรทุกลดลง 16.0% แตะระดับ 29,659 คัน

ยอดขายรถยนต์ของบริษัทโตโยต้าร่วงลง 2.8% แตะระดับ 105,519 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 เดือน โดยยอดขายรถยนต์เล็กซัส ดิ่งลง 25.3% แตะระดับ 1,559 คัน

ส่วนยอดขายรถยนต์ของฮอนด้า ซึ่งไม่นับรวมรถยนต์ขนาดเล็ก เพิ่มขึ้น 5.1% สู่ระดับ 26,900 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ของนิสสัน ร่วงลง 11.4% แตะระดับ 33,681 คัน ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

ยอดขายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วงลง 24.5% แตะระดับ 3,676 คัน ซึ่งลดลงติดต่อกัน 4 เดือน และยอดขายของมาสด้า มอเตอร์ ลดลง 5.0% แตะระดับ 14,181 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน