นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ระบุว่า รัฐบาลยังสามารถรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจของโลกที่มีความผันผวนได้ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาได้เตรียมการไว้พร้อมอย่างเต็มที่แล้ว แม้ล่าสุดประเทศเวียดนามจะประกาศลดค่าเงินดองและปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงประเทศจีนสั่งธนาคารพาณิชย์ให้กันสำรองเงินฝาก 17%

เนื่องจากประเทศไทยมีประสบการณ์จากวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 40 ทำให้สถาบันการเงินมีวินัยมากพอสมควร โดยเตรียมการไว้พร้อมอย่างเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมาจึงไม่มีเรื่องที่น่าเป็นห่วง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศเวียดนามในเดือน พ.ค.51 ขึ้นไปสูงถึง 25% และใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่

อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยพยายามดูแลไม่ให้อัตราเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ "ผมว่าสถานการณ์ของทั้งสองประเทศในขณะนี้อาจจะมีหลายประการที่แตกต่างจากประเทศไทย" นพ.สุรพงษ์ กล่าว

นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องติดตามดูแลและระมัดระวังในเรื่องของการเคลื่อนย้ายเงินทุนไม่ให้ผิดปกติ ผลกระทบต่อการส่งออก ซึ่งคิดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยในภาพรวมรัฐบาลจะดูแลไม่ให้มีการตั้งงบประมาณปี 51 และ 52 ไม่ให้ขาดดุลมากเกินไป แม้จะมีการดำเนินโครงการเมกะโปรเจ็คต์แต่จะดูแลให้มีการลงทุนอย่างระมัดระวัง