เนื้อหาวันที่ : 2008-06-05 12:37:21 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1903 views

อินเดียและมาเลเซียเสี่ยงเผชิญเงินเฟ้อและการประท้วง หลังประกาศขึ้นราคาน้ำมัน

รัฐบาลในประเทศต่างๆในเอเชียกำลังจะต้องรับมือกับสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง การประท้วงของประชาชน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ผู้บริหารระดับนโยบายก็คาดการณ์กันผิดที่ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจะทำให้ราคาปรับตัวลง

รัฐบาลในประเทศต่าง ๆในเอเชียกำลังจะต้องรับมือกับสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง การประท้วงของประชาชน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

.

นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ของอินเดีย และนายกรัฐมนตรีอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี ของมาเลเซีย ได้ใช้มาตรการผ่อนปรนการควบคุมราคาน้ำมันเมื่อวานนี้ ในขณะที่อินโดนีเซีย ไต้หวัน ปากีสถาน และศรีลังกาก็ดำเนินการในลักษณะที่ทำให้ต้นทุนของธุรกิจและผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น

.

เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะผลักดันอัตราเงินเฟ้อของอินเดียให้อยู่ที่ระดับ 8.5% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 13 ปี โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป ระบุว่า ส่วนการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของมาเลเซียอาจจะพุ่งสูงขึ้น 2 เท่ามาอยู่ที่ระดับกว่า 7% ในเดือนมิ.ย.

.

ธนาคารกลางของประเทศต่างๆในเอเชียอาจจะดำเนินการตามธนาคารกลางปากีสถานด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่กลุ่มผู้บริหารระดับนโยบายก็คาดการณ์กันผิดที่ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจะทำให้ราคาปรับตัวลง

.

นายกฯอินเดียกล่าวว่า ราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล และแก็สสำหรับปรุงอาหารที่สูงขึ้นกว่าเดิมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ขณะที่อินเดียเองไม่สามารถหามาตรการเพื่อคุ้มครองประชาชนที่มีจำนวนมากถึง 1.2 พันล้านคนได้ตลอดไป

.

ทั้งนี้ พรรคคอมมิวนิสต์ของอินเดีย 4 พรรคเตรียมก่อเหตุประท้วงสถานการณ์ดังกล่าวในวันนี้   เอ็น บาสคาร่า ราโอ ประธานศูนย์กลางการศึกษาสื่อ กล่าวว่า การที่ราคาเชื้อเพลิงต่างๆสูงขึ้นนี้แสดงให้เห็นนัยทางการเมืองที่สำคัญ เพราะรัฐบาลประเทศต่างๆไม่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายนัก

.

นายกฯอินเดียและมาเลเซียกำลังเสี่ยงเผชิญกับคะแนนนิยมทางการเมืองที่ลดลง หลังจากที่พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว โดยพรรคร่วมรัฐบาลได้สูญคะแนนเสียงส่วนใหญ่ถึง 2 ใน 2 ในรัฐสภา และยังสูญอำนาจในการดูแลรัฐถึง 5 รัฐให้กับพรรคฝ่ายค้านในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 มี.ค. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน