เนื้อหาวันที่ : 2008-06-05 10:46:43 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2149 views

แอสเซท พลัส มองดอกเบี้ยขาขึ้น เน้นลงทุนระยะสั้น รอบการลงทุน 3 เดือน ให้ผลตอบแทน 3.10%*

บลจ.แอสเซท พลัส เสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 3 (ASP-MMF3) ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนในประเทศ รอบการลงทุนทุก 3 เดือน คาดผลตอบแทน ประมาณ 3.10%* ต่อปี เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 4-10 มิถุนายน นี้

บลจ.แอสเซท พลัส เสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 3 (ASP-MMF3) ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนในประเทศ รอบการลงทุนทุก 3 เดือน คาดผลตอบแทน ประมาณ 3.10%* ต่อปี เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 4-10 มิถุนายน นี้

.

นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด ให้ความเห็นว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 7.6% โดยทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 ปี ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เกิดจากแรงกดดันของราคาสินค้า ทั้งในหมวดอาหาร และมิใช่อาหาร โดยเฉพาะต้นทุนราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลกระทบไปยังต้นทุนการผลิต ทั้งนี้หากราคาน้ำมันยังคงทรงตัวในระดับสูง คาดว่าเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีนี้อาจสูงถึง 10% ใกล้เคียงกับราคาสูงสุดที่ 10.6% ในปี 2541

.

"ปัจจุบันด้านต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นรุนแรง ได้กดดันเงินเฟ้อทั่วโลก ส่งผลให้ผลตอบแทนสุทธิในตลาดเงินมีแนวโน้มลดลง และเป็นแรงผลักดันให้ธนาคารกลางหลายแห่งของโลก หันมาใช้นโยบายการเงินตึงตัวมากขึ้น สำหรับประเทศไทย คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ หลังจากที่คงไว้ที่ระดับ 3.25% แม้ว่าจะกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภายในประเทศที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนก็ตาม" นางลดาวรรณ กล่าว

.

จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่จะปรับตัวขึ้น ทำให้บริษัทฯ เริ่มนำเสนอการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ระยะสั้น ๆ เพื่อให้ผู้ลงทุนมีช่องทางการลงทุนที่รับกับจังหวะการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ทั้งนี้ ผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นในประเทศเริ่มกลับมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนระยะสั้นในตราสารหนี้ต่างประเทศ

.

"เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่มองหาการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น บริษัทฯ จึงเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 3 (ASP-MMF3) เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพในประเทศที่ผู้ออกได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) รอบการลงทุนทุก 3 เดือน ผลตอบแทนเฉลี่ยของตราสารที่คาดว่าจะลงทุนประมาณ 3.30% ซึ่งหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 0.20% แล้ว คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ในระดับ 3.10% ต่อปี*" นางลดาวรรณ กล่าว

.

*ข้อมูล ณ 2 มิ.ย. 51 ทั้งนี้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่ระบุไว้