เนื้อหาวันที่ : 2008-06-05 10:17:04 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2284 views

คุณลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ

คนคิดทำธุรกิจต้องมีสัญชาตญาณของความเป็นผู้ประกอบการ คนที่ไม่มีสัญชาติญาณของความเป็นผู้ประกอบการมักจะทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ

คนส่วนใหญ่ที่คิดทำธุรกิจเป็นของตนเอง ต้องมีสัญชาตญาณของความเป็นผู้ประกอบการ คนที่ไม่มีสัญชาติญาณของความเป็นผู้ประกอบการมักจะทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จถึงแม้คนหล่านั้นจะไม่พอใจกับงานที่ทำอยู่  และกำลังขวนขวายหาธุรกิจที่เหมาะสมจะลงทุน  ดังนั้นคนที่จะเป็นผู้ประกอบการมักจะไม่สะทกสะท้านกับปัญหาอุปสรรคใดที่จะเกิดขึ้น  มีแต่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำ  ต้องทำให้ได้  แม้จะเหน็ดเหนื่อยอย่างไรก็อดทน   ทำงานหนักต่อไปและมีความผูกพันกับงานที่ทำ  เพื่อให้เกิดความสำเร็จ

.

จากการที่เดิมได้มีโอกาสคลุกคลีกับผู้ประกอบการและได้มีผู้ศึกษาคุณลักษณะของความเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จนั้น   ต้องมีหลายประการประกอบกัน  ท่านที่จะเป็นผู้ประกอบการอาจจะไม่จำเป็นจะต้องมีให้ครบทุกข้อ  ยกเว้นข้อที่จำเป็นบางข้อที่คุณควรจะมี  ดังนั้นขอให้ท่านพิจารณาดูตนเองว่าขาดข้อใดบ้าง  เห็นสมควรที่จะพัฒนาให้เกิดขึ้นกับตนเองก็จะเป็นประโยชน์  คุณลักษณะดังกล่าวมีดังต่อไปนี้

.

1.  ความกล้าเสี่ยง  (Risk  Taking)

"ธุรกิจ"  กับ  "ความเสี่ยง"   เป็นของคู่กัน  ผู้ที่เป็นผู้ประกอบการ  ชอบทำงานที่ท้าทายความรู้ ความสามารถของเขา  เขาจะไม่มีความภูมิใจกับงานที่ง่าย  หรืองานที่มีความเป็นไปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเท่ากับไม่มีความเสี่ยงเลย  และเขาจะหลีกเลี่ยงงานที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป  แต่เขาชอบงานที่มีความเสี่ยงปานกลาง  คือมีโอกาสประสบความสำเร็จหรือความล้มเหลว  ความเสี่ยงระดับนี้เขาประเมินแล้ว  ไม่เกินความสามารถของเขาที่จะทำให้บรรลุผลสำเร็จ  

.

โดยเขาหาทางเลือกไว้หลายทาง  เช่นการลงทุนธุรกิจ  เขาจะใช้เวลาศึกษาวางแผนตลาด  เลือกการผลิตที่เหมาะสมกับวัตถุดิบ  เครื่องจักร อุปกรณ์  เงินลงทุน หลักการบริหาร  พร้อมทั้งคำนวณผลตอบแทนที่  คาดว่าจะได้รับภายใต้ภาวะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และหน่วยงานของรัฐบาล  ศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน  แล้วค่อยตัดสินใจพร้อมที่จะผจญกับปัญหาต่าง ๆ  เขาจะไม่เหมือนกับคนทั่วไปที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง  แต่เขาจะกล้าเสี่ยงระดับปานกลางที่คิดว่ามีการประเมินความเป็นไปได้อย่างดีแล้ว

.
2.  ต้องการมุ่งความสำเร็จ  (Need  for  Achievement)

เมื่อมองเห็นโอกาสแห่งความเป็นไปได้  พร้อมทั้งพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว  เขาจะมุ่งมั่นใช้พลังงานความคิดสติปัญญา  ความสามารถทั้งหมด  ทำงานหนักทุ่มเทให้กับงาน  เพื่อให้บรรลุความสำเร็จตามช่องทางที่วางไว้  โดยไม่คำนึงถึงความยากลำบาก  เขายังคงต่อสู้ต่อไป  พร้อมจะทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงาน  เกิดการเรียนรู้ถึงความผิดพลาดจากที่ผ่านมา  เพื่อแก้ไขไปสู่ความสำเร็จ  พอใจภูมิใจที่งานออกมาดีเด่น  จุดมุ่งหมายทางธุรกิจมิได้อยู่ที่ทำกำไร  แต่จะทำเพื่อการขยายความเจริญเติบโตของกิจการ  ทำไรเป็นเพียงเครื่องสะท้อนว่าจะทำได้  เขาไม่เพียงสนใจที่ผลบรรลุเป้าหมาย  แต่เขาสนใจวิธีการของขบวนการที่ทำให้บรรลุเป้าหมายด้วย

.
3.  มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์  (Creativity   Thinking)

เมื่อท่านต้องการประสบความสำเร็จ  ต้องเป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์   ไม่พอใจที่จะทำในสิ่งซ้ำ ๆ เหมือนแบบดั้งเดิม  แต่เป็นผู้ที่ชอบเอาประสบการณ์ที่ผ่านมา  นำมาประยุกต์ใช้สร้างสรรค์หาวิธีการใหม่ที่ดีกว่าเดิมนำมาใช้กับการบริหารธุรกิจ  เป็นผู้เข้าถึงปัญหาแล้วหาทางแก้ไข  หาแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงการผลิตตลอดเวลา 

.

กล้าที่จะผลิตสินค้าที่แตกต่างจากตลาดที่มีอยู่เดิม  กล้าใช้วิธีการขายที่ไม่เหมือนใคร  กล้าประดิษฐ์ค้นคว้าสิ่งแปลกใหม่เข้าสู่ตลาด  และเกือบทุกครั้งของความแตกต่างนั้นทำให้ได้ผลเป็นอย่างดี  นอกจากนี้ยังกล้าคิดค้นประดิษฐ์เครื่องจักร  เครื่องมืออุปกรณ์ใหม่  ๆ มาใช้ในการผลิต  นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้  พร้อมทั้งแสวงหาวัตถุใหม่ ๆ มาทดแทน  ปรับปรุงการดำเนินงาน  นำการจัดการสมัยใหม่มาใช้ผลิตให้มีประสิทธิภาพ  ลดต้นทุนการผลิต  ความคิดสร้างสรรค์นี้เขาอาจคิดขึ้นมาเอง  หรือเอาแนวคิดมาจากนักประดิษฐ์  นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษามาก็ได้

.

คุณ แจ็ก มิน ซุน ฮู  นักธุรกิจไต้หวัน  มาอยู่เมืองไทยท่านได้ร่วมกับ บริษัท สหวิริยา โอเอเซ็นเตอร์  บุกเบิกธุรกิจคอมพิวเตอร์ในเมืองไทย  ซึ่งเป็นสิ่งใหม่สำหรับคนไทย  เมื่อ  20  กว่าปีก่อนมีราคาแพงไม่ค่อยมีใครซื้อ  แต่ แจ็ก มองการณ์ไกล  เขาจะทำในส่งที่ยังไม่มีใครทำ  ในตอนแรกยังไม่มีตลาด  แต่เราทำก่อน 

.

ตลาดก็จะเป็นของเรา  แจ็กเชื่อว่า  "คนประสบความสำเร็จจะต้องทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้"  หรือไม่อยากทำ  แต่เราพิจารณาคาดการณ์ถูกต้อง  ต้องลงมือทำก่อน  เขาเอาความคิดนี้เปรียบเทียบกับเครื่องคิดเลข  แบบพกใส่กระเป๋าได้  เครื่องคอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน  และปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์ก็วิวัฒนาการจนเป็นเครื่องแบบกระเป๋าหิ้ว  แจ็กมองเห็นช่องทางจึงสร้างโรงงานผลิตในประเทศไทยปัจจุบันนี้ธุรกิจคุ้มทุน  และมีกำรมากมาย

.

อีกท่านหนึ่งคือคุณรังสรรค์  ต่อสุวรรณ  สถาปนิกที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์  มีสายเลือดพาณิชย์ศิลป์  โดยริเริ่มนำเอากลยุทธ์การขายโครงการก่อสร้างตึกสูง    ก่อนกิจการจะสร้างเสร็๗  ซึ่งในเวลาต่อมา  กลยุทธ์นี้เป็นที่นิยมของวงการอสังหาริมทรัพย์จนถึงปัจจุบัน  วิธีนี้ทำให้ผู้ลงทุนใช้เงินสดหรือเงินกู้น้อยลง  นอกจากนี้เขายังเป็นคนแรกที่ริเริ่มนำเอาโครงการของอาคารที่ก่อสร้าง  ทำเป็นรูปเสาโรมันมาใช้ในเมืองไทย  ซึ่งทำให้ดูหรูหราอลังการ  คล้ายตึกที่พระที่นั่งอนันต์  ทำให้ขายง่าย  ลูกค้านิยม  นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำธุรกิจ

.

4.  รู้จักผูกพันต่อเป้าหมาย

เมื่อการตั้งเป้าหมาย  มีการวาดภาพจินตนาการไปถึงความสำเร็จ  และจะต้องทำอย่างไรถ้าล้มเหลว  จะเกิดจากอะไร  แก้ไขอย่างไร  ดังนั้นเพื่อให้เกิดความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้  เขาจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย  เป้าหมายนั้นล้วนแต่เป็นการเอาชนะทั้งนั้น  ความคิดผูกพันที่จะเอาชนะ  ถึงกับวางแผนกลยุทธ์ไว้ล่วงหน้า  เป็นอย่างดี  เพราะกลัวความล้มเหลว  มีการวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรค์ที่อาจขัดขวางในการไปสู่เป้าหมาย  เตรียมป้องกันที่จะเอาชนะปัญหาอุปสรรค์ที่คาดว่าจะทำให้เกิดการล้มเหลว  แต่ขณะเดียวกันมองโลกในแง่ดี  มีความหวัง  มุ่งมั่นต่อเป้าหมายของความสำเร็จจนมองเห็นอนาคต

.
5.  ความสามารถโน้มน้าวจิตใจผู้อื่น

ผู้ประกอบการที่ดีนอกจากมีความสามารถในการทำงานแล้ว  ยังต้องมีความสามารถในการชักจูงโน้มน้าวจิตใจ  ผู้อื่นให้ความร่วมมือช่วยเหลือในการทำงาน รู้จักใช้ความสามารถในการทำงานสร้างทัศนคติและแรงจูงใจต่อผู้ร่วมงานให้สามารถเข้าใจการทำงาน  เต็มใจปฏิบัติงานตามที่วางไว้  สามารถโน้มน้าวใจแหล่งเงินทุน  เช่น ธนาคาร ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง  ให้คล้อยตามความคิดของเขาและยินดีให้การสนับสนุนทางการเงินลงทุนแก่เขา  คุณศุภกิจ  รุ่งโรจน์  ผู้มีชื่อเสียงในการทำพิซซ่าลอยฟ้าเจ้าของบริษัท  อัลเพรโดเอ็นเตอร์ไพรส์  จำกัด  มีสาขา  19  แห่ง  ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องการโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นไว้  ดังนี้

.

"คิดอะไร  เราจะเริ่มจากความคิด  เมื่อคิดว่าเป็นไปได้ก็นำไปสู่ความเชื่อ  เมื่อเชื่อแล้วก็ต้องบอกว่าทำได้  เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องขายความเชื่อให้กับผู้ที่ร่วมทำให้สำเร็จ  คือต้องขายความคิดนี้ให้หุ้นส่วนให้กับลูกน้อง  ให้กับผู้ขายวัตถุดิบ  (ซัพพลายเออร์)  ให้กับลูกค้า  และครอบครัว"

.
6.  ยืนหยัดต่อสู้ทำงานหนัก

 เมื่อพิจารณารอบคอบแล้วตั้งเป้าหมาย  พยายามทำงานหนัก  ทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ  ยากที่จะหยุดยั้งหรือท้อแท้ได้  แม้ว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรค  ถูกกดดันอย่างใหญ่หลวงก็ไม่สามารถหยุดหยั้งได้  ขอเพียงให้งานที่เขารับผิดชอบสำเร็จเท่านั้น  พูดได้ว่าเขาเก็บตัวอยู่กับงานตลอดเวลา

.
7.  เอาประสบการณ์ในอดีตมาเป็นบทเรียน

เป็นคุณลักษณะสำคัญที่ควรจะปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ  เป็นการมองในอดีตที่เคยทำผิดพลาด  นำมาเป็นบทเรียนสะท้อนไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก  หรือนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานหรือนำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการทำงาน  ให้มุ่งไปสู่การทำงานที่ดีกว่าเดิม  เขาจะมองเหตุการณ์ต่าง    เป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้  ในการทำงาน  บางครั้งเขาไม่สามารถทำได้สำเร็จ  เขาก็จะหยุดคิดหาวิธีใหม่ ๆ มาแก้ไขปัญหา  เขาจะไม่มุทะลุยึดมั่นกับแผนเดิมแล้วทำไม่ได้  เขาจะยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงจนทำได้สำเร็จ ฟังความคิดเห็นของผู้รู้ผู้แนะนำ

.
8.  มีความสามารถในการบิรหารงาน  และเป็นผู้นำที่ดี

มีลักษณะการเป็นผู้นำ  รู้หลักการบริหารงาน  เมื่อต้องทำงานร่วมกับคนหลายระดับในภาวะที่แตกต่างกันออกไป  ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ  ลักษณะของความเป็นผู้นำก็ย่อมแตกต่างกันไป  โดยเฉพาะระยะเริ่มทำธุรกิจ  จะต้องรับบทเป็นผู้นำ  ที่ลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเอง  ทำงานหนัก  เพื่อให้บรรลุความสำเร็จเอาใจใส่ผู้ร่วมงาน  วางแนวทางการทำงาน  พร้อมให้คำแนะนำ  ผู้ร่วมงานรับคำสั่งด้วยความเต็มใจปฏิบัติ  เขาจะเป็นผู้กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด  และเป็นกันเอง  ผลงานดำเนินไปด้วยดี

.

ต่อมากิจการเติบโตขึ้น  การบริหารงานก็เปลี่ยนแปลงไป  ลูกน้องมีการเปลี่ยนแปลงและเชื่อมั่นได้มากขึ้น  ไว้ใจและแบ่งความรับผิดชอบให้ลูกน้องมากขึ้น  จนถึงปล่อยให้ดำเนินการเอง  ส่วนตนเองจะได้มีเวลาใช้ความคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์  ขยายกิจการหรือลงทุนใหม่  มีการวางแผนสั่งการ ตัดสินใจทำงานตามที่วางไว้  กล้าลงทุนจ้างผู้บริหารมาช่วยงานมากกว่าเป็นธุรกิจเครือญาติ  รู้จักปรับเปลี่ยนแปลงการบริหารสามารถทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้

.
9.  มีความเชื่อมั่นตนเอง

ผู้ประสบความสำเร็จ  มักจะเป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง  ชอบอิสระและพึ่งตนเอง  มีความมั่นใจ  ตั้งใจเด็ดเดี่ยว  เข้มแข็งมีลักษณะเป็นผู้นำ  และมีความเชื่อมั่นที่จะพิชิตเอาชนะสิ่งแวดล้อมที่น่าสะพรึงกลัวได้  มีความทะเยอทะยาน  มักจะประเมินความสามารถของตนเองสูงเกินไป  เชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป  จึงไม่แปลกที่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ  เคยมีประวัติความล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง 

.

โดยเฉพาะช่วงแรกของชีวิตการทำงาน  แต่เขาไม่เลิกล้ม ความล้มเหลวทำให้เขาไม่หยุดก้าวต่อไป  กล้านำบทเรียนนั้นมาแก้ไขปรับปรุง  จนสามารถต่อสู้ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ได้สำเร็จ  เขาเชื่อมั่นว่า  ไม่ว่าสถานการณ์อย่างไรเขาต้องพึ่งตนเองได้  ปัจจัยอื่น    เป็นปัจจัยเสริมเท่านั้น  การทำงานหนัก  ความทะเยอทะยาน  และการแข่งขันจะเป็นสิ่งสนับสนุนตนเองได้ดีที่สุด

.
10.  มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
เป็นผู้ที่มีประสบการณ์สามารถที่จะวิเคราะห์เหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้าได้อย่างแม่นยำและพร้อมรับเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลง
.
11.  มีความรับผิดชอบ

รับผิดชอบต่องานที่ทำเป็นอย่างดี  เป็นผู้นำในการทำสิ่งต่าง ๆ  เขามักจะมีความคิดริเริ่มแล้วลงมือทำเอง  หรือมอบหมายให้ผู้อื่นทำ  และเขาจะเป็นผู้ดูแลจนงานสำเร็จไปตามเป้าหมายที่วางไว้  เขาก็จะรับผิดชอบตัดสินใจในผลงานนั้น  ไม่ว่าจะผลออกมาจะดีหรือไม่  เขาเชื่อว่าความสำเร็จเกิดจากความเอาใจใส่  ความพยายาม  ความรับผิดชอบมิใช่เกิดจากโชคหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เกิดขึ้นเท่านั้น

.

12.  มีความกระตือรือร้น  และไม่หยุดนิ่ง

แสดงให้เห็นการทำงานเต็มไปด้วยพลัง  มีชีวิตชีวาที่ยากจะทัดทาน  มีความกระตือรือร้น  ทำงานทุกอย่างรวดเร็ว  ทำงานหนักมากกว่าวันละ  18  ชั่วโมง  เกินกว่าคนปกติทั่วไป  เร่งรัดตัวเองทุกวัน  มีพลังผูกพันตัวเองไม่อยู่นิ่งด้วย  การฆ่าเวลาให้หมดไปวันหนึ่ง    เบื่อหน่ายต่องานซ้ำซากจำเจ

.

13.  ใฝหาความรู้เพิ่มเติม

ถึงแม้จะเชี่ยวชาญชำนาญในการผลิต  แต่ความรู้และประสบการณ์อย่างอื่น หรือที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ  ก็ต้องหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอด  โดยเฉพาะความรู้ข้อมูลทางการตลาด  เศรษฐกิจ  การเมือง  กฎหมาย  ทั้งในและต่างประเทศ  ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เขาวิเคราะห์สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ความรู้ไม่มีวันเรียนจบ  ความรู้อาจจะได้จากการสัมมนาฝึกอบรม  อ่านหนังสือทำให้มีความรู้เพิ่มขึ้น  และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ  มาช่วยให้ข้อคิดเห็นแก้ไขปัญหา  สิ่งเหล่านี้จะเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้งานสำเร็จเร็วขึ้น

.

14.  กล้าตัดสินใจและมีความมุมานะพยายาม

กล้าตัดสินใจมีความหนักแน่นไม่หวาดหวั่น  เชื่อมั่นในตนเองกับงานที่ทำ  มีจิตใจของนักต่อสู้  แม้งานจะหนักก็ทุ่มเทให้สุดความสามารถ  ไม่กลัวงานหนัก  ถือว่างานหนักนั้นเป็นงานท้าทายใช้ความรู้  สติปัญญา  ความสามารถของเขาในการทำงาน  เขาจะภูมิใจเมื่อทำได้สำเร็จความมุมานะพยายามนั้น  เป็นการทุ่มเทชีวิตจิตใจ  ทำแข่งขันกับตัวเองและแข่งขันกับเวลาขวนขวายหาทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคืจนสามาถบรรลุความสำเร็จ

.

15.  อย่าตั้งความหวังไว้กับผู้อื่น

ผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ  มักใช้น้ำพักน้ำแรงที่มาจากตนเอง  จึงมีการผลักดันให้ผู้ที่อยู่รอบด้าน  ลูกน้องทำงานหนักอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับตนเพื่อให้งานสำเร็จ  บางครั้งเข้าไปควบคุมกำกับอย่างใกล้ชิด  ทำให้ดูเหมือนไม่ไว้วางใจผู้ร่วมงาน  แต่เขาหวังเพียงความสำเร็จ

.

16.  มองเหตุการณ์ปัจจุบันเป็นหลัก

ผู้ประกอบการบางคนมักจะฝังใจในอดีต  ซึ่งบางคนประสบความสำเร็จ  บางคนล้มเหลวแล้วไม่สามารถปรับตัวเองได้  บางคนปรับตัวได้โดยพยายามเข้าใขในอดีต  บางคนมีแต่โลกแห่งความฝัน สร้างวิมานในอากาศ  แล้วไม่ลงมือทำ  จึงไม่บรรลุเป้าหมายที่วางไว้  ดังนั้นจงทำงานปัจจุบันให้ดีที่สุดคิดถึงอนาคตด้วยการวางแผนไว้อย่างรอบคอบ  แต่มุ่งทำปัจจุบันให้สำเร็จ  ไม่ต้องไปกังวลอย่างอื่นจนทำอะไรไม่ได้

.

17.  สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม

ต้องเชื่อมั่นในความสามารถของตนที่จะปรับตนเองให้เป็นไปตามต้องการของสภาพแวดล้อมมากกว่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ควบคุมไม่ได้  หรือขึ้นอยู่กับโชค  หรือดวง  ถ้าพูดถึง โชค หรือ ดวงนั้น  ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จให้ความเห็นว่า  "เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านนั้นไม่ใช่เป็นหลักแต่ทั้งนี้อยู่ที่การกระทำของตนเอง  ต้องใช้ความรู้ความสามารถผลักดันตนเอง  จึงจะประสบความสำเร็จไม่ใช่ไปดูหมอดู"

.
18.  ทำอะไรเกินตัวคือความล้มเหลว
การทำอะไรรู้จักประมาณตนเอง  ไม่ทำสิ่งใดเกินตัว  เกินความสามารถ  จะได้ไม่ประสบกับความล้มเหลวในการลงทุนทำธุรกิจ  ในระยะแรกการคาดการณืตลาดยังไม่ชัดเจน  แต่ทำธุรกิจแบบใจใหญ่  แทนที่จะเริ่มเล็ก    ไปก่อน  แต่กลับไปลงทุนใหญ่ที่เดียว  ผลลัพธ์ไม่สามารถหาตลาดได้  สินค้าที่ผลิตได้ก็ไม่สามารถจะระบายออกไปได้  ผลสุดท้ายมีสินค้าค้างสต็กอกมาก  เงินทั้งหมดก็มาจมอยู่  ไม่สามารถหาเงินลงทุนต่อไปได้  นี่เป็นสาเหตุของความเกินตัว  ทำให้ธุรกิจล้มเหลวได้
.

19.  ต้องมีความร่วมมือและแข่งขัน

การทำธุรกิจย่อมมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน  คือ เพื่อกำไร  แม้ว่าจุดม่งหมายเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องแข่งให้ล้มไปข้างหนึ่ง  ยังมีวิธีการที่จะมุ่งสู่ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกัน  ด้วยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป

.

ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกันจะต้องไม่พยายามทำธุรกิจให้เกิดผู้แพ้ผู้ชนะ  แต่ต้องดำเนินให้เกิดเพียงผู้ชนะอย่างเดียว  ร่วมมือกันพึ่งพาอาศัยกันเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดโดยร่วมกันตั้งเป็นสมาคม  ชมชม เพื่อช่วยหลือกัน  การทำธุรกิจต้องมีการแข่งขัน  ควรแข่งขันในเรื่องพัฒนาผลิตภัณฑ์ คุณภาพ บริการ  ด้านลดต้นทุนการผลิต  ถ้าไม่มีการแข่งขัน  ก็จะไม่มีการพัฒนาเกิดขึ้น

.
20.  ประหยัดเพื่ออนาคต

การดำเนินธุรกิจต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะบรรลุเป้าหมาย  การดำเนินงานระยะสั้นยังไม่เห็นผล  ผู้ประกอบการต้องมีการประหยัด  อดออมไว้เพื่อนำไปขยายกิจการในอนาคต  ต้องรู้จักห้ามใจที่จะหาความสุขความสบายในช่วงที่ธุรกิจพึ่งจะตั้งตัว  อดเปรี้ยวไว้กินหวาน  เพื่ออนาคตข้างหน้า

.
21.  มีความซื่อสัตย์

ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าในด้านคุณภาพสินค้าและต้องสร้างความเชื่อถือของตัวเองในการเป็นลูกหนี้ที่ดีของธนาคาร  เป็นนายที่ดีของลูกน้อง  โดยสัญญาจะให้โบนัสกับเขาก็ต้องให้  มีความซื่อสัตย์ต่อเพื่อนร่วมหุ้น  ต่อครอบครัว  และต่อตนเอง  โดยจะโกหกตนเองไม่ได้  และที่สำคัญต้องซื่อสัตย์ต่อรัฐโดยการเสียภาษีอากร

.

 คุณสมบัติของผู้ประกอบการทั้งหมดที่กล่าวมานี้  ท่านลองพิจารณาดูว่าท่านเองมีคุณสมบัติอยู่แล้วเป็นทุนกี่ข้อ  ส่วนข้อที่ยังขาดอยู่ในใช่ว่าจะเรียนรู้ไม่ได้  ถ้าหากท่านต้องการจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ  ท่านสามารถฝึกฝนตนเองก็จะเป็นประโยชน์แก่ตัวท่าน 

.
ที่มา : กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม