เนื้อหาวันที่ : 2008-05-30 10:45:31 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1133 views

ปตท. จับมือ 2 บริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น สร้างมูลค่าเพิ่มก๊าซธรรมชาติทดแทนการนำเข้า

ปตท. จับมือกับพันธมิตรสองบริษัทปิโตรเคมีชั้นนำของญี่ปุ่น สร้างโรงงานผลิตวัตถุดิบตั้งต้นคุณภาพสูงจากก๊าซธรรมขาติ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และอิเลคทรอนิคส์แห่งแรกในไทยลดการขาดดุลการค้าเกือบ 15,000 ล้านบาทต่อปี

ปตท. จับมือกับพันธมิตรสองบริษัทปิโตรเคมีชั้นนำของญี่ปุ่น สร้างโรงงานผลิตวัตถุดิบตั้งต้นคุณภาพสูงจากก๊าซธรรมขาติ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และอิเลคทรอนิคส์แห่งแรกในประเทศ ช่วยลดการขาดดุลการค้าให้ประเทศได้เกือบ 15,000 ล้านบาทต่อปี จากการทดแทนการนำเข้าและการส่งออกผลิตภัณฑ์

.

ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด เปิดเผยว่า ปตท.ได้ร่วมทุนกับ บริษัท อาซาฮี คาเซ เคมิคอล จำกัด และ บริษัท มารูเบอนี่ จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 48.5 , 48.5 และ 3 ตามลำดับ เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตวัตถุดิบตั้งต้นชนิดคุณภาพสูง คือ AN และ MMA

.

โดยใช้ก๊าซโพรเพนจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ปตท.เป็นวัตถุดิบในการผลิตแทนการใช้โพรพิลีนเป็นแห่งแรกของโลก ทั้งนี้ AN และ MMA เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่าง ๆ อาทิ อุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าที่ต้องการความแข็งแกร่ง เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ เส้นใยแก้วนำแสง (Optic Fiber) แผ่นอะคริลิก ไฟท้ายรถยนต์ รวมถึงเส้นใย acrylic fiber ที่ใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมสิ่งทอ

.

ดร.ไพรินทร์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด มีกำหนดแล้วเสร็จเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งจะช่วยสร้างเม็ดเงินให้เศรษฐกิจไทยเกือบ 15,000 ล้านบาทต่อปี จากการทดแทนการนำเข้า AN กว่า 140,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,750 ล้านบาทต่อปี และยังสร้างรายได้จากการส่งออก AN และ MMA ส่วนเกิน ได้อีกกว่า 7,130 ล้านบาทต่อปี

.

นอกจากนั้นยังจะช่วยขยายตลาดผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจาก AN และ MMA ซึ่งเป็นพลาสติกกลุ่ม Specialty และช่วยลดต้นทุนในการผลิต เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่ผลิตได้เองในประเทศ และที่สำคัญยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในการใช้ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นทรัพยากรของประเทศอีกด้วย