เนื้อหาวันที่ : 2008-05-16 17:16:43 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1286 views

ปตท. อั้นไม่อยู่แล้วปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศอีก 50 สตางค์ ทุกชนิด

ปตท. รับภาระแทนประชาชนไปแล้วประมาณ 3,600 ล้านบาท ปตท. จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดขึ้น 50 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.51) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายประเทศได้รับผลกระทบต่อราคาน้ำมันที่ทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประเทศไทยซึ่งอยู่ในฐานะผู้บริโภคน้ำมันซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศกว่า 90%

.

ล่าสุด ราคาน้ำมันโลกยังคงปรับตัวอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน เช่น ไนจีเรีย อิหร่าน และอิรัก และจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศจีน ทำให้ประสบปัญหาในการขนส่งถ่านหินซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลัก จึงอาจต้องหันมานำเข้าน้ำมันอย่างเร่งด่วน ประกอบกับปริมาณการผลิตของ Non-Opec โดยเฉพาะในประเทศยุโรป อเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ลดลง

.

โดยวันนี้ (16 พ.ค.51) ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 119.17 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซินขึ้นอยู่ที่ระดับ 130.25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 160.14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งที่ผ่านมา ปตท. ได้พยายามรักษาระดับราคาโดยไม่ปรับราคาหรือปรับช้ากว่าบริษัทอื่นๆ ทำให้ ปตท. ต้องประสบกับค่าการตลาดติดลบถึงกว่า 2.40 บาท/ลิตร

.

(ค่าการตลาดที่เป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 1.50 บาท/ลิตร) หรือทุกลิตรที่ขายเท่ากับขาดทุนเกือบ 4 บาท/ลิตร หรือต้องรับภาระอยู่ประมาณวันละ 95 ล้านบาท รวมนับตั้งแต่ต้นปี 2551-ปัจจุบัน ปตท. รับภาระแทนประชาชนไปแล้วประมาณ 3,600 ล้านบาท ปตท. จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดขึ้น 50 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.51) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เป็นดังนี้

.
                                                                             หน่วย : บาท/ ลิตร
  • น้ำมันเบนซิน พีทีที E20 พลัส                  32.59 (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 6 บาท ม.ค.-มิ.ย.51)
  • น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95   34.59 (ถูกกว่าเบนซิน 95 ถึง 4 บาท)
  • น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91   33.79 (ถูกกว่าเบนซิน 91 ถึง 3.70 บาท)
  • น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95           38.59
  • น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91            37.49
  • น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส           34.24 (ถูกกว่าดีเซล ถึง 0.70 บาท)
  • น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์      34.94
.

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า การปรับราคาน้ำมันขายปลีกในครั้งนี้ยังมิได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง จึงขอให้ทุกคนช่วยประหยัดกันอย่างจริงจัง มิเช่นนั้น ตัวเลขนำเข้าน้ำมันของประเทศไทยอาจเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 9 แสนล้านบาทในปีนี้  และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศต่อไปอย่างแน่นอน