นายประเสริฐ แจงผลการดำเนินงานที่ดีของ ปตท. อย่างต่อเนื่องทำให้มีความเข้มแข็งทางการเงินสามารถลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดหาพลังงานให้พอเพียงกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น มีแผนลงทุน 3 แสนล้านบาท
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยถึงผลประกอบการครึ่งปีแรก 2549 ว่า ปตท. และบริษัทย่อยมียอดขายรวม 583,622 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจ 48,250 ล้านบาท หรือเท่ากับประมาณ 8% ของยอดขาย โดยกำไรส่วนใหญ่ มาจากบริษัทที่ ปตท.ไปร่วมลงทุนในธุรกิจที่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการรับรู้กำไรครั้งเดียวจากการขายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันระยอง (ซึ่งเป็นหุ้นที่ ปตท.ซื้อมาจากบริษัทเชลล์เมื่อปลายปี 2547 และนำบางส่วนมากระจายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อกลางปี 2549) อีกจำนวน 7,130 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 2549 ปตท. และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 688,714 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 376,892 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 311,822 ล้านบาท |
นายประเสริฐ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่ดีของ ปตท. อย่างต่อเนื่องทำให้ ปตท.มีความเข้มแข็งทางการเงินสามารถลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดหาพลังงานให้พอเพียงกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยในแผน 5 ปี (2549-2553 ) ปตท.ต้องใช้เงินลงทุนสูงถึงกว่า 240,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ(จัดหาและขนส่ง)ประมาณ 175,000 ล้านบาท ธุรกิจร่วมทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่นประมาณ 50,000 ล้านบาท และธุรกิจน้ำมันประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าวทำให้เกิดความมั่นคงทางพลังงาน และเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ |
นายประเสริฐ เปิดเผยด้วยว่า จากผลการดำเนินงานที่ดีของปตท.ทำให้ ปตท.สามารถส่งเงินเข้ารัฐเพื่อพัฒนาประเทศได้เพิ่มขึ้นทั้งในรูปของภาษีและเงินปันผล โดยประมาณการว่าปตท.และบริษัทในกลุ่มสามารถนำเงินส่งรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า (2549 – 2553) สูงถึง 300,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 200% เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน( 2544 – 2548) ที่กลุ่ม ปตท. ส่งเงินเข้ารัฐประมาณ 100,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังทำให้ ปตท.มีความสามารถในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุด ปตท. ได้รับรางวัล Best Corporate Social Responsibilities (CSR) Award จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะบริษัทที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมด้วย |
นอกจากนี้ นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า ศักยภาพที่เข้มแข็งของ ปตท. นั้นมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่มีต่อเศรษฐกิจไทย โดยในปีนี้ ปตท. ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารชั้นนำด้านการเงินการลงทุนของโลก ซึ่ง การจัดอันดับของนิตยสารฟอร์จูน หรือ Fortune Global 500 นั้น ปตท. ติดอยู่ในอันดับที่ 265 ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก (265th World’s Largest Corporations) และยังได้รับการจัดอันดับใน Forbes Global 2000 โดยนิตยสารฟอร์บส ให้ ปตท. อยู่ในอันดับที่ 372 อีกด้วย |