เนื้อหาวันที่ : 2008-05-15 08:31:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1459 views

ประธานสอท.รับปัจจัยการเมืองส่งผลกระทบความเชื่อมั่นการลงทุน

ประธาน ส.อ.ท. ยอมรับปัจจัยการเมืองมีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน ทำให้บางส่วนชะลอการตัดสินใจเริ่มลงทุนใหม่และขยายการลงทุนในไทย โดยเฉพาะนักลงทุนที่ผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ที่เกรงว่ากำลังซื้อผู้บริโภคยิ่งลดลง

ประธาน ส.อ.ท. ยอมรับปัจจัยการเมืองมีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน ทำให้บางส่วนชะลอการตัดสินใจเริ่มลงทุนใหม่และขยายการลงทุนในไทย โดยเฉพาะนักลงทุนที่ผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ที่เกรงว่ากำลังซื้อผู้บริโภคยิ่งลดลง

.

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัจจัยทางการเมืองมีอิทธิพลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน 2 ระดับ คือ นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมักจะหวั่นไหวต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น และนักลงทุนในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง โดยเฉพาะนักลงทุนที่ไม่เคยมาลงทุนในประเทศไทย เมื่อได้ทราบข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในไทย ก็อาจจะระมัดระวังในการเริ่มลงทุนมากขึ้น และชะลอการลงทุนไปบ้าง

.

นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อนักลงทุนต่างชาติที่กำลังตัดสินใจขยายกำลังการผลิต เพื่อผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย เพราะหากการเมืองมีปัญหาก็จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้การจับจ่ายของผู้บริโภคลดลงไปมากกว่านี้ ซึ่งผู้ผลิตส่วนใหญ่ก็ต้องรอความชัดเจนทำให้ต้องชะลอกำลังการผลิตออกไป เพราะเกรงว่า เมื่อผลิตออกมาแล้วจะขายไม่ออก แม้ว่ากำลังการผลิตในปัจจุบันจะสูงถึงร้อยละ 76-77 ซึ่งมีความจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตแล้วก็ตาม

.

นายสันติ กล่าวว่า ยังมีนักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งที่ลงทุนในไทยอยู่แล้ว เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยเป็นอย่างดี และไม่ค่อยหวั่นไหวกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น และยังคงลงทุนตามปกติ นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนบางส่วนที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมรับการเปิดเสรีการค้า การลงทุนของประเทศในเอเชีย 10 ประเทศ ในปี 2558 ซึ่งยังเป็นปัจจัยบวกสำหรับเศรษฐกิจของไทย