สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงในวันนี้ (14 พ.ค.) หลังจากที่ได้พุ่งใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 127 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันจะลดลงก็ตาม |
. |
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมิ.ย.และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 8 เซนต์ แตะระดับ 125.72 ดอลลาร์/บาร์เรล จากที่ได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 126.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนจะปิดที่ 125.80 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้ ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่าสองเท่าในปีที่แล้ว และได้เพิ่มขึ้นประมาณ 25% นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้พุ่งฝ่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล |
. |
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวคาดการณ์ในรายงานประจำเดือนว่า ความต้องการน้ำมันดิบในปี 2550 จะอยู่ที่ระดับ 86.8 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากระดับในปีที่แล้ว 1.2% แต่ต่ำกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย. 390,000 บาร์เรล/วัน IEA คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2550 จะอยู่ที่ระดับ 85.8 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ 1.3% เมื่อเทียบกับระดับในปี 2549 แต่ต่ำกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย. 150,000 บาร์เรล |
. |
นักวิเคระห์กล่าวว่า ความต้องการพลังงานจากจีนและอินเดียที่ขยายตัว และการที่โอเปคออกมาปฏิเสธที่จะปรับเพิ่มผลผลิตน้ำมันดิบเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นก็สืบเนื่องมาจากประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันในตะวันออกกลาง และการโจมตีบริษัทน้ำมันของกลุ่มกบฏในไนจีเรีย |