ฟอร์ด สร้างประวัติศาสตร์ในวงการความเร็วอีกครั้งหลัง ฟอร์ด โฟกัส RS WRC 7 คัน ติดกลุ่ม 9 อันดับแรกและทีมฟอร์ด 3 ทีมติด 6 อันดับแรกในการแข่งขันแรลลี่สุดทรหดของโลก รายการ "เวิลด์แชมเปียนชิปแรลลี่"
ฟอร์ด สร้างประวัติศาสตร์ในวงการความเร็วอีกครั้งหลัง ฟอร์ด โฟกัส RS WRC 7 คัน ติดกลุ่ม 9 อันดับแรกและทีมฟอร์ด 3 ทีมติด 6 อันดับแรกในการแข่งขันแรลลี่สุดทรหดของโลก รายการ "เวิลด์แชมเปียนชิปแรลลี่" (World Rally Championship) หรือ WRC จากการแข่งขันในประเทศจอร์แดน โดยมี มิกโก เฮอร์โวเนน ยอดนักแข่งดาวรุ่งและจาร์โม เลห์ติเนน แห่งทีม บีพี ฟอร์ด อาบูดาบี เวิลด์แรลลี่ ทำคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่งในประเภทนักแข่งของปีนี้ |
จอห์น เฟลมมิ่ง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฟอร์ด ยุโรป กล่าวว่า "ตลอดการแข่งขัน 3 วันที่ผ่านมา เราได้เห็นกันเต็มตาว่าการแข่งขันแรลลี่ครั้งนี้เข้มข้นมากที่สุด ทั้งอากาศที่ร้อนระอุ ด่านแต่ละด่านก็ทรหดมาก คนที่จะฝ่ามาได้จะต้องเป็นคนที่เก่งและพร้อมที่สุดเท่านั้น แต่ฟอร์ดไม่เพียงแต่ฝ่าด่านและความท้าทายเหล่านี้มาได้เท่านั้น เรายังชนะด้วย และฟอร์ด โฟกัส RS WRC ของเราก็คือผู้ชนะ เราภูมิใจมากที่ได้เห็นตราสัญลักษณ์ของฟอร์ดอยู่ในตำแหน่งผู้ชนะ ทั้งในประเภทบุคคลและทีม" |
มาร์ค ดีนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ต ฟอร์ด ยุโรป กล่าวเสริมว่า "แม้ว่าอากาศจะร้อน และสภาพถนนจะแย่มาก แต่ฟอร์ด โฟกัส 7 คันของเราก็สามารถทำผลงานดีเด่นติดอันดับท็อป 9 ของการแข่งขัน พิสูจน์ถึงความทนทาน และสมรรถนะที่โดดเด่นได้เป็นอย่างดี" |
การแข่งขันในจอร์แดนนับเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่ดุเดือดและเป็นสุดยอดแห่งบทพิสูจน์ความแกร่งของคนและรถ ไม่ว่าจะในเรื่องของความเร็ว ความทนทาน ความแข็งแกร่ง และวางใจได้ โดยทุกทีมที่แข่งขันต้องขับบนถนนกรวด ในสภาพอากาศที่ร้อนเกือบ 40 องศาเซลเซียส ไปริมขอบทะเลสาบเดดซี บางช่วงเป็นถนนที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร ฝ่าด่านทดสอบความเร็วถึง 22 สถานีรวมระยะทาง 359.26 ก.ม. |
ในการแข่งขันวันแรก นักแข่งไฟแรงของทีม บีพี ฟอร์ด อาบูดาบี เวิลด์แรลลี่ สามารถทำเวลาดีเป็นอันดับหนึ่ง และด้วยการวางแผนมาเป็นอย่างดีทีมฟอร์ดจึงดึงเวลาลงเล็กน้อยในช่วงสุดท้ายของวันที่สองเพื่อให้ทีมคู่แข่งจากสเปนนำไปก่อน เพื่อที่ในวันสุดท้าย ทีมสเปนจะต้องบุกถนนดินลื่นไปเป็นทีมแรก ปล่อยให้ทีมฟอร์ดขับทำความเร็วได้อย่างสบายๆ ตามรอยที่ทีมแรกบุกเบิกไว้ให้ก่อนแล้ว ทำให้มิกโก เฮอร์โวเนนสามารถประหยัดเวลาในด่านนี้ได้ดีกว่าทีมอันดับสองถึง 23.7 วินาที |
ส่วนอีก 2 คู่หูของทีมบีพี ฟอร์ด อาบูดาบี เวิลด์แรลลี่ ได้แก่ ยาริ-มัตติ ลัตวาลา และมิอิกกา อันติลา ซึ่งแม้จะประสบปัญหาช่วงล่างด้านหลังซ้ายหักในระหว่างการแข่ง แต่ทีมช่างก็สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้นักแข่งทั้งสองยังคงบุกตะลุยต่ออีกเป็นระยะทางถึง 41 ก.ม. ได้และทำคะแนนมาเป็นอันดับ 7 ในการแข่งขันประเภทบุคคล |
และคู่สุดท้ายของทีม ได้แก่ คาห์ลิด อัล อัซซิมิ และไมเคิล ออร์ ก็นำฟอร์ด โฟกัส RS WRC ทำคะแนนตามมาเป็นอันดับ 9 การแข่งขันในจอร์แดน เป็นสนามที่ 5 จากทั้งหมด 15 สนาม ที่ WRC จะจัดขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยในปีนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้จัดได้เลือกประเทศจอร์แดนเป็นหนึ่งในสนามแข่งสุดทรหดเพื่อพิสูจน์ความสามารถของนักแข่งระดับโลก ความแกร่งและสมรรถนะอันเหนือชั้นของรถยนต์ |
ทีมแรลลี่ของฟอร์ด ครองแชมป์ WRC ประเภททีมอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 2 ปีซ้อนในปี 2006 และ 2007 นำทีมนักแข่งดาวรุ่งชาวฟินแลนด์ มิกโก เฮอร์โวเนน ผู้ซึ่งคว้าชัยชนะให้กับทีมฟอร์ดมาแล้ว มิกโกเคยมาเยือนประเทศไทย พร้อมทั้งโชว์ฝีมือการขับรถให้คนไทยได้เห็นแบบเต็มตาในการเปิดตัวฟอร์ด โฟกัส TDCi เมื่อปลายปี 2007 ซึ่งสร้างกระแสและทำให้คนไทยรู้จักการแข่งขันสุดโหดเวิลด์แรลลี่แชมเปียนชิปและสมรรถนะของฟอร์ด โฟกัสมากยิ่งขึ้น |