เฟดเอ็กซ์ ประกาศความสำเร็จของฝูงรถขนส่งสินค้าระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด นำมาใช้สร้างรายได้จริงให้แก่บริษัทด้วยการให้บริการขนส่งรวมเป็นระยะทางมากกว่า 2 ล้านไมล์ พร้อมประหยัดเชื้อเพลิง และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รุกสั่งซื้อเพิ่มอีก 75 คัน

ฝูงรถขนส่งระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดของเฟดเอ็กซ์ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 42 หรือ 83,000 แกลลอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 30 หรือ 950 ตัน และลดมลพิษร้อยละ 96 และเพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์การใช้พลังงานสะอาดในฝูงรถขนส่งสินค้าของบริษัท เฟดเอ็กซ์ได้จัดซื้อรถขนส่งใหม่ที่ใช้ระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปรวมทั้งสิ้น 75 คัน ส่งผลให้เฟดเอ็กซ์มีฝูงรถขนส่งระบบไฟฟ้าแบบไฮบริดมากกว่า 170 คันทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ซึ่งนับเป็นฝูงรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ระบบไฮบริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยมีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของตลาดรถแบบไฮบริดในภูมิภาคดังกล่าวโดยรวมทั้งหมด

มร. มิทช์ แจ็คสัน ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เฟดเอ็กซ์ คอร์ป กล่าวถึงการให้บริการขนส่งสินค้าด้วยฝูงรถขนส่งแบบไฮบริดเป็นระยะทางถึง 2 ล้านไมล์ว่า "นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของรถขนส่งแบบไฮบริดที่เฟดเอ็กซ์เลือกใช้เพื่อสิ่งแวดล้อม เราจะเดินหน้าเลือกใช้รถขนส่งที่ใช้พลังงานสะอาดและล้ำสมัยต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่บริษัทผู้ผลิตรถขนส่งควรมุ่งให้ความสำคัญกับการผลิตรถขนส่งแบบไฮบริดที่รองรับการใช้น้ำมันเบนซินและไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการใช้เชื้อเพลิงสะอาด ประหยัด และสามารถหาได้ง่ายกันมากขึ้น" 

ด้านมร. จอห์น ฟอร์มิซาโน รองประธาน กลุ่มฝูงรถขนส่งทั่วโลก บริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส กล่าวเสริมว่า "เฟดเอ็กซ์มีความยินดีอย่างยิ่งที่ฝูงรถขนส่งระบบไฮบริดของบริษัทมีสมรรถนะที่ดีเยี่ยมทั้งด้านการทำงานและการรักษาสิ่งแวดล้อม และพร้อมเดินหน้าสรรหารถขนส่งประหยัดพลังงานรุ่นใหม่ ๆ อาทิ รถไฮบริดมาใช้ในการดำเนินงานของบริษัทต่อไป"

ปัจจุบัน ตลาดรถขนส่งแบบไฮบริดเป็นตลาดที่มีความคึกคักอย่างมาก ดังจะเห็นจากจำนวนรถขนส่งไฮบริดที่เพิ่มขึ้นบนท้องถนน พร้อมกับมียอดสั่งซื้อรถขนส่งจากบริษัทต่าง ๆ เพิ่มขึ้นทุกวัน ความร่วมมือระหว่างเฟดเอ็กซ์และอีดีเอฟถือเป็นการเริ่มต้นแบบก้าวกระโดดที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ของวงการอุตสาหกรรมรถขนส่ง เพื่อตอกย้ำปณิธานของเราที่มุ่งสร้างสรรค์รถขนส่งพลังงานสะอาด ให้สามารถใช้งานจริงและมีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก และประหยัดเชื้อเพลิง"

ในปี 2543 เฟดเอ็กซ์ได้ร่วมมือกับอีดีเอฟพัฒนารถขนส่งแห่งอนาคตรุ่นใหม่ อีก 3 ปีต่อมา เฟดเอ็กซ์และอีดีเอฟได้ร่วมมือกับบริษัท อีตัน คอร์ปอเรชั่น และบริษัท เฟรทไลเนอร์ คัสตอม ชาสซี คอร์ปอเรชั่นนำรถขนส่งระบบไฟฟ้าแบบผสมออกใช้งานเพื่อการพาณิชย์เป็นคันแรก โครงการพัฒนารถขนส่งแบบไฮบริดได้รับการยกย่องให้เป็นโครงการที่มีบทบาทสำคัญในการคิดค้นและพัฒนารถขนส่งแบบไฮบริดอันล้ำสมัย นอกจากนี้ เฟดเอ็กซ์และอีดีเอฟยังได้ร่วมมือกันผลักดันตลาดให้ใช้พาหนะพลังงานสะอาดมากขึ้นอีกด้วย

เฟดเอ็กซ์เป็นบริษัทขนส่งเพียงรายเดียวที่เรียกร้องให้มีการกำหนดมาตรฐานการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพในรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่และกลาง เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและประหยัดเชื้อเพลิง นอกจากนี้ เฟดเอ็กซ์ยังเป็นผู้ริเริ่มเรียกร้องให้มีการพัฒนาเครื่องยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมันสำหรับใช้ในยานยนต์ระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าแบบผสมตามมาตรฐานเครื่องยนต์ของอีพีเอปี 2007

โดดเด่นทางด้านประสิทธิภาพของระบบขนส่งบนภาคพื้นดินและในอากาศ

เพื่อตอกย้ำนโยบายมุ่งสรรหาทางเลือกที่เปี่ยมประสิทธิภาพให้แก่ฝูงรถขนส่งและฝูงบินของบริษัททั้งทางด้านการช่วยลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน เฟดเอ็กซ์ได้ดำเนินการเสริมสร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้แก่เส้นทางขนส่งของบริษัทมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้มั่นใจว่ายานพาหนะที่ใช้ขนส่งในแต่ละเส้นทางมีขนาดที่เหมาะสมที่สุด ส่งผลให้ฝูงรถขนส่งของเฟดเอ็กซ์มีการปรับเปลี่ยนเป็นยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กลงและประหยัดเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้น ทำให้เฟดเอ็กซ์สามารถประหยัดเชื้อเพลิงจนถึง ณ ขณะนี้รวมทั้งสิ้นมากกว่า 50 ล้านแกลลอน

.

สำหรับฝูงบินเพื่อการขนส่งของเฟดเอ็กซ์ ได้เริ่มมีการพัฒนาโดยใช้เครื่องบินโบอิ้ง 757 แทนเครื่องบินขนาดลำตัวแคบที่ใช้อยู่เดิม สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 757 มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม โดยสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้สูงถึงร้อยละ 36 และมีศักยภาพในการขนส่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20  นอกจากนี้ เฟดเอ็กซ์ยังเตรียมจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งมีศักยภาพในการบรรทุกสินค้าเพิ่มขึ้น และกินน้ำมันน้อยกว่าฝูงบินของเฟดเอ็กซ์ที่ใช้ในเส้นทางบินระหว่างประเทศปัจจุบันสูงถึงร้อยละ 18 ทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย