เนื้อหาวันที่ : 2008-04-29 15:04:59 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1667 views

แอร์บัสและโบอิ้งร่วมมือลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมการบิน

แอร์บัสและโบอิ้ ง ได้ลงนามในข้อตกลงบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากอุตสาหกรรมการบิน ทั้งสองบริษัทจะพยายามหากระบวนการเพื่อเร่งการยกระดับของระบบจัดการการคมนาคมทางอากาศโลก ทั้งนี้เพื่อสร้างการเพิ่มประสิทธิภาพและลดสภาพแออัดของการจราจรทางอากาศในปัจจุบัน

.

แอร์บัสและโบอิ้ ง ได้ลงนามในข้อตกลงบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากอุตสาหกรรมการบิน ทั้งสองบริษัทจะพยายามหากระบวนการเพื่อเร่งการยกระดับของระบบจัดการการคมนาคมทางอากาศโลก ทั้งนี้เพื่อสร้างการเพิ่มประสิทธิภาพและลดสภาพแออัดของการจราจรทางอากาศในปัจจุบัน 

.

แอร์บัสและโบอิ้งได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อการประสานการทำงานร่วมกันทั่วโลกในด้านการจราจรทางอากาศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันสืบเนื่องจากอุตสาหกรรมการบิน ทั้งสองบริษัทจะพยายามหากระบวนการเพื่อเร่งการยกระดับของระบบจัดการการคมนาคมทางอากาศโลก ทั้งนี้เพื่อสร้างการเพิ่มประสิทธิภาพและลดสภาพแออัดของการจราจรทางอากาศในปัจจุบัน

.

มร.ทอม เอ็นเดอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์บัสและมร.สก็อต คาร์สัน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครื่องบินเชิงพาณิชย์ของโบอิ้ง ได้เป็นผู้ลงนามในข้อตกลงระหว่างสองบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมครั้งนี้ซึ่งจัดขึ้นเป็นการพิเศษภายในงานการประชุมว่าด้วยอุตสาหกรรมการบินและสิ่งแวดล้อม(The Aviation and Environmental Summit) ครั้งที่สามที่จัดขึ้น ณ กรุงเจนีวา

.

"แอร์บัสและโบอิ้งเป็นคู่แข่งธุรกิจที่มีความสมศักดิ์ศรีและนั่นนับเป็นสาเหตุหนึ่งที่สร้างให้ทั้งสองบริษัทให้ความสำคัญและทุ่มเทความพยายามในการปรับปรุงประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมด้านการบิน ขณะที่วิธีการที่ใช้อาจมีความแตกต่างกัน ทว่าทั้งสองบริษัทล้วนมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันนั่นคือการบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีสาเหตุจากอุตสาหกรรมการบิน"  มร.คาร์สัน กล่าว

.

.

"ผมมีความเชื่อมั่นว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้สามารถมีความยั่งยืนและช่วยลดผลกระทบของอุตสาหกรรมการบินที่มีต่อสิ่งแวดล้อม การแข่งขันนับเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เราเร่งสร้างสิ่งเหล่านี้ และจากการที่ทั้งแอร์บัสและโบอิ้งล้วนมีจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยที่เหมือนๆกันจึงเป็นความสนใจอย่างยิ่งของเราทั้งสองบริษัทในการสามารถร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้รวดเร็วขึ้นได้ ในวันนี้" มร.เอ็นเดอร์ กล่าว

.

การประสานงานร่วมกันระหว่างทั้งสองบริษัทเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการบินและรัฐบาลสามารถเลือกหนทางที่มีผลโดยตรงต่อการช่วยยกระดับระบบจัดการการคมนาคมทางอากาศในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในสามแนวทางที่ถูกวางแผนขึ้นเพื่อปรับปรุงและบรรเทาผลกระทบของอุตสาหกรรมการบินที่เกิดแก่สิ่งแวดล้อม อีกสองแนวทางนั้นได้แก่ 1) การแข่งขันเพื่อยกระดับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอันจะมีผลต่อสิ่งแวดล้อม ผลที่ปรากฏเห็นได้จากการเกิดขึ้นของอากาศยานอย่างแอร์บัสเอ380 และโบอิ้ง787 2) การให้ความสนับสนุนที่เหมาะสมต่อวงการอุตสาหกรรมในการสร้างผลเชิงบวกให้เกิดแก่สิ่งแวดล้อม

.

ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการบินได้มีการพัฒนาไปมากในเรื่องเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องบิน เช่น การลดการก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 70 ลดการก่อมลภาวะทางเสียงลงได้ถึงร้อยละ 90 และลดสารไฮโดรคาร์บอนที่ไม่ผ่านการเผาไหม้ลงได้ร้อยละ 90เช่นกัน สภาที่ปรึกษาเพื่อการวิจัยวิทยาศาสตร์การบินแห่งยุโรป (The Advisory Council for Aeronautics Research in Europe – ACARE ) ได้ตั้งเป้าหมายที่จะลดการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับที่มีอยู่ปัจจุบันลงให้ได้อีกร้อยละ 50 รวมทั้งลดการใช้ก๊าซกลุ่มที่มีไนโตรเจนและออกซิเจนเป็นองค์ประกอบลงร้อยละ 80 ภายในปีพ.ศ.2563 ซึ่งระบบจัดการการคมนาคมทางอากาศที่ได้รับการปรับปรุงและยกระดับขึ้นใหม่จะมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว

.

.

การปรับปรุงระบบจัดการการคมนาคมทางอากาศโลก คือการทำให้เกิดการวางเครือข่ายเส้นทางการบินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การบริหารเที่ยวบินขาเข้าที่ดีกว่าเดิมและการควบคุมความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะส่งผลช่วยลดความล่าช้าของเที่ยวบินและเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางได้ อีกทั้งต่อเนื่องนำไปสู่การประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษจากเที่ยวบิน การปรับปรุงระบบการจราจรทางอากาศดังกล่าวนับเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอุตสาหกรรมการบิน