เดลฟาย นำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดขายอะไหล่ยานยนต์ในประเทศไทย ผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายมากกว่า 2,000 ราย เดลฟายจับมือกับทีเอซี นำมรดกในการผลิตอุปกรณ์มาตรฐานมากกว่า 100 ปี สู่ตลาดขายอะไหล่ยานยนต์ของไทย

บริษัท เดลฟาย โปรดัก แอนด์ เซอร์วิส โซลูชั่นส์ (DPSS) ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งในห้างหุ้นส่วนจำกัด เดลฟาย ออโตโมทีฟ ซิสเต็มส์ มีหน้าที่ดูแลด้านการตลาดและการจัดส่งผลิตภัณฑ์อะไหล่แท้ของเดลฟาย ได้นำประสบการณ์ในด้านการผลิตอุปกรณ์มาตรฐานมากกว่า 100 ปี มาช่วยส่งเสริมการเติบโตของตลาดการขายอะไหล่ยานยนต์ในประเทศไทย

DPSS จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ โดยเชิญลูกค้าและพันธมิตรค้าปลีกมาร่วมเป็นสักขีพยานภายในงาน และได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ อีริค จอห์น เอกอัครราชทูต สหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งมีการประกาศแต่งตั้ง บริษัท ที อาร์ ดับบลิว เอเชียติ๊ก จำกัด (หรือ ทีเอซี) เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ DPSS อย่างเป็นทางการรายแรกในประเทศไทย ในฐานะตัวแทนจำหน่ายของเดลฟาย ทั้งนี้ เอเอซี จะทำหน้าที่สร้างแบรนด์เดลฟายให้ก้าวหน้าต่อไปในตลาดที่สำคัญแห่งนี้

มร. ฟรานซิสโก เอ. (แฟรงค์) ออร์โดเนซ ประธาน บริษัท เดลฟาย โปรดัก แอนด์ เซอร์วิส โซลูชั่นส์ กล่าวว่า "เนื่องจากประเทศไทยมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงนับเป็นโอกาสที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับเดลฟาย เรามีความมั่นใจว่าเราจะสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด การขายอะไหล่ยานยนต์ในประเทศไทยได้ ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังมีความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคุณภาพสูง"

ด้วยความร่วมมือของทีเอซี จะทำให้ DPSS สามารถจัดส่งชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ภายใต้แบรนด์ เดลฟายไปสู่เจ้าของรถ ผ่านเครือข่ายคู่ค้าและโรงงานในประเทศไทยที่มีมากกว่า 2,000 ราย สำหรับขั้นแรกของการดำเนินงานในท้องถิ่น ทีเอซีจะทำการตลาดและจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ของ เดลฟาย (สายหัวเทียน ระบบตรวจสอบ คอยล์จุดระเบิด ปั๊มสูบน้ำมันเชื้อเพลิง) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (เครื่องเสียงรถยนต์ ระบบนำทางแบบพกพา เครื่องเล่น DVD ติดตั้งเหนือศีรษะ) ระบบระบายความร้อน (ชิ้นส่วนระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และระบบเครื่องปรับอากาศ อาทิ คอมเพรสเซอร์ คอยล์ร้อน คอยล์เย็น หม้อน้ำ) และเพลารถ (ผ้าเบรก และชุดอุปกรณ์ติดตั้งผ้าดิสค์เบรก)

ในขณะนี้ทีเอซี กำลังอยู่ในระหว่างคัดเลือกคู่ค้าปลีกสำหรับผลิตภัณฑ์เดลฟายอย่างเป็นทางการในกรุงเทพ และมีแผนจะขยายไปสู่เมืองหลักๆ ของประเทศไทยเร็วๆ นี้ บริษัท ที อาร์ ดับบลิว เอเชียติ๊ก จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. 2550 เป็นบริษัทผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยานยนต์ที่มีคุณภาพอย่างครบวงจรสำหรับลูกค้ากลุ่มตลาดการขายอะไหล่ยานยนต์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ซึ่งทำหน้าที่จัดส่งผลิตภัณฑ์ให้แพร่หลาย มอบการบริการในหลากหลายรูปแบบ

รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด เดลฟาย เป็นผู้นำในระบบและชิ้นส่วนยานยนต์ของโลกที่นำเสนอโซลูชั่นส์สำหรับผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจรให้แก่โรงงานผลิตรถยนต์ทั่วโลก DPSS ได้นำความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีในระดับโลกมาสู่ตลาดการขายอะไหล่ยานยนต์ และด้วยการพัฒนาในด้านธุรกิจและเครือข่าย จัดเป็นความมุ่งมั่นในการนำอุปกรณ์มาตรฐานที่มีคุณภาพและการบริการที่ดีขึ้นมาสู่ตลาดการขายอะไหล่ยานยนต์ของไทย

เดลฟาย เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกที่ให้บริการจัดหาอุปกรณ์ด้านอิเล็กทรอนิกส์ชนิดพกพาและระบบการขนส่ง ซึ่งครอบคลุมระบบส่งกำลัง ระบบความปลอดภัย ระบบบังคับทิศทาง ระบบระบายความร้อน ระบบควบคุมและการรักษาความปลอดภัย สถาปัตยกรรมด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีความบันเทิงภายในรถยนต์ วิศวกรรมของบริษัทฯ เป็นไปตามและเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดของอุตสาหกรรมยานยนต์ เทคโนโลยีของเดลฟาย

ยังสามารถใช้ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค อุปกรณ์ด้านพลังงาน และอุปกรณ์การแพทย์ เดลฟาย มีสำนักงานใหญ่อยู่ในมลรัฐทรอย (Troy) ในรัฐมิชิแกน ( Michigan ) ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีพนักงานประมาณ 169,500 คน ดำเนินการผลิตในโรงงานซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของทั้งหมด 156 แห่งใน 34 ประเทศ และมีรายได้จำนวน 22.3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในปีพ.ศ. 2550

บริษัท เดลฟาย โปรดัก แอนด์ เซอร์วิส โซลูชั่นส์ ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ (Product Business Units - PBUs) จำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มตลาดการขายอะไหล่ยานยนต์อิสระ (Independent Aftermarket) กลุ่มตลาดการขายอะไหล่ยานยนต์สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล (Diesel Aftermarket) กลุ่มบริการอะไหล่แท้ (Original Equipment Service) กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (Consumer Electronics) และกลุ่มเกี่ยวกับการแพทย์ (Medical) บริษัทฯ มีพนักงานมากกว่า 1,500 คนที่ทำหน้าที่ให้บริการแก่ผู้แทนจำหน่าย ผู้ค้าส่ง และผู้ติดตั้งซึ่งมีกว่า 7,000 แห่งทั่วโลก ทั้งนี้ DPSS มีเครือข่ายของฐานปฏิบัติงานอยู่ใน 16 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก