กฎหมายห้ามคุยโทรศัพท์มือถือขณะขับรถจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 8 พ.ค.นี้ หากมีผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ซึ่งได้กำชับกับตำรวจจราจรไปแล้วว่าหากเห็นการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถต้องดำเนินการจับปรับอย่างเด็ดขาด
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจราจร เปิดเผยว่า กฎหมายห้ามคุยโทรศัพท์มือถือขณะขับรถจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 8 พ.ค.นี้ หากมีผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ซึ่งได้กำชับกับตำรวจจราจรไปแล้วว่าหากเห็นการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถต้องดำเนินการจับปรับอย่างเด็ดขาด |
. |
อย่างไรก็ตาม กฎหมายยกเว้นให้สามารถใช้อุปกรณ์เสริมแฮนด์ฟรี อาทิ บลูทูธ สมอลทอล์ค ได้ และยกเว้นให้สำหรับกรณีคุยโทรศัพท์ในขณะที่รถไม่ได้เคลื่อนที่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแยกต่างๆ ใน กทม. ประมาณ 30 แยกเพื่อตรวจสอบแล้ว |
. |
นอกจากนี้กฎหมายที่บังคับให้ผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกกันน็อกก็มีผลบังคับใช้แล้วเช่นกัน หากฝ่าฝืนคนที่ซ้อนรถโดยไม่สวมหมวกกันน็อกมีโทษปรับ 500 บาท ส่วนคนขับขี่มีโทษปรับเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือ 1,000 บาท รวมถึงได้กำชับให้ตำรวจกวดขันอีก 6 ข้อหาคือ |
. |
1.สวมหมวกนิรภัยไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด 2.ขับรถจักรยานยนต์ไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย 3.อุปกรณ์ส่วนควบไม่สมบูรณ์ 4.ขับขี่จักรยานยนต์ฝ่าฝืนทิศทางการเดินรถหรือย้อนศร 5.บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือซ้อนสาม และ 6.ไม่หยุดรถหลังเส้นให้หยุด เมื่อได้รับสัญญาณไฟแดงหรือฝ่าไฟแดง |