เนื้อหาวันที่ : 2008-04-23 16:55:24 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1587 views

รัฐบาลไฟเขียวแผนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท

รัฐบาลเตรียมก่อสร้างและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อย่างเพียงพอกับความต้องการและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรักษาความเป็นศูนย์กลางด้านการบินในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

.

รัฐบาลเตรียมก่อสร้างและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อย่างเพียงพอกับความต้องการและมีประสิทธิภาพทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรักษาความเป็นศูนย์กลางด้านการบินในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

.

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางอากาศและท่าอากาศยานที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบหลักการและงบประมาณวงเงิน 73,739 ล้านบาท งบประมาณปี 54-58 (งบ 5 ปี) สำหรับเงินลงทุนแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.)ระยะที่ 2

..

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานฯ โดยก่อสร้างและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อย่างเพียงพอกับความต้องการและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรักษาความเป็นศูนย์กลางด้านการบิน(Hub) ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

.

นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้ บมจ.ทอท.(AOT)จัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 29 เม.ย.51 ส่วนงบประมาณ 73,000 ล้านบาทนั้น เชื่อว่า AOT จะสามารถจัดหาได้ทั้งจากการออกพันธบัตรรวมทั้งแหล่งเงินกู้ต่างๆ ได้ พร้อมกันนี้ยังขอให้เร่งดำเนินการก่อสร้างเพื่อเชื่อมโครงการแอร์พอร์ตลิ้งกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีแดงระหว่างดอนเมืองไปยังสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย

.

สำหรับแผนงานดังกล่าวมี 10 โครงการหลัก ประกอบด้วย 1.โครงการจ้างที่ปรึกษาบริหารจัดการโครงการ(PMC) วงเงิน 810 ล้านบาท 2.โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 วงเงิน 3,746 ล้านบาท 3.โครงการออกแบบและก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 วงเงิน 27,864 ล้านบาท 4.โครงการก่อสร้างลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 พร้อมทางขับเข้าสู่ลานจอดอากาศยาน วงเงิน 4,907 ล้านบาท

.

5.โครงการออกแบบและก่อสร้างส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ เพื่อเป็นทางเชื่อมระบบขนส่งผู้โดยสารระบบลำเลียงกระเป๋า สัมภาระ และระบบสาธารณูปโภค ระหว่างอาคารผู้โดยสารหลักและอาคารเทียบเครื่องบินรอง วงเงิน 4,930 ล้านบาท 6.โครงการออกแบบและติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสาร(APM) วงเงิน 3,042 ล้านบาท

.

7.โครงการออกแบบและก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก วงเงิน 6,780 ล้านบาท 8.โครงการออกแบบและก่อสร้างอาคารจอดรถด้านทิศตะวันออก (อาคารจอดรถ 1) วงเงิน 625 ล้านบาท 9.โครงการออกแบบและก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค 2,693 ล้านบาท และ 10.การชดเชยผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินการพัฒนา ทสภ. ระยะที่ 2

.

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้สายการบินต้นทุนต่ำทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศมาให้บริการผู้โดยสารได้ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองตามความสมัครใจเพื่อเป็นการแบ่งเบาความแออัดในสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะปัจจุบันมีสายการบินต้นทุนต่ำเพียง 3 สายเท่านั้นที่เข้ามาให้บริการ

.

พล.ต.ท. ดร.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ AOT ปรับแผนการดำเนินงานให้สามารถเริ่มงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยรวมขั้นตอนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) และการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และให้ความสำคัญกับแผนงานโครงการหลัก 4 โครงการ(โครงการที่ 1, 2, 3 และ 7) ให้สามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 51