เนื้อหาวันที่ : 2008-04-18 14:32:10 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 746 views

พลังงานบริสุทธิ์ ขาย IPO 490 ล้านหุ้น ซื้อเครื่องจักร-ปรับปรุงการผลิต

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นับ 1 ข้อมูลไฟลิ่ง(Filing) บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ ในวันที่ 11 เม.ย.2551 โดยบริษัทฯจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป(IPO) จำนวน 490 ล้านหุ้น ซึ่งไม่ได้การจัดสรรหุ้นให้แก่ประชาชนในวงกว้าง

.

เนื่องจากจำนวนหุ้นที่เสนอขายมีจำนวนจำกัด คิดเป็น 16.39% ของหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะนำหุ้นเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) โดยมีบล.พัฒนสิน เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

.

วัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุน เพื่อซื้อเครื่องจักรและปรับปรุงกระบวนการผลิต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้ บริษัทฯมีโครงการในอนาคต คือ การปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้สามารถใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบในการผลิตได้ คาดว่าโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณปลายเดือนเมษายน 2551, บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตกลีเซอรีนจาก 2,400 ตันต่อปีเป็น 4,800 ตันต่อปี

.

รวมทั้ง วางแผนที่จะขออนุญาตจากกระทรวงพลังงานเป็นผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงรายใหญ่ตามมาตร 7 ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 ได้เกินกว่า 120 ล้านลิตรต่อปี, ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรที่สามารถแยกกรดไขมันออกจากเมทานอลใช้แล้วของบริษัท เพื่อสามารถนำกรดไขมันไปจำหน่ายและสามารถนำเมทานอลทั้งหมดกลับมาใช้ได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2551 

.

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ เดิมชื่อ บริษัท ซันเทค ปาล์มออยล์ จำกัด ปัจจุบันประกอบธุรกิจจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล B100 น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 กลีเซอรีน และผลิตภัณฑ์พลอยได้อื่น ๆ จากการแปรรูป บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 299 ล้านบาท มีทุนชำระแล้ว 250 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,990 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท

.

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 27 มีนาคม 2551 ประกอบด้วย กลุ่มอาหุนัย ถือหุ้น 1,237 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 49.48% ภายหลังขาย IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 41.37% รองลงมาเป็นกลุ่มเจียรนิลสกุลชัย ถือหุ้น 339.996 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 13.60% ภายหลังขาย IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 11.37%

.

อันดับที่ 3 คือกลุ่มพานิชผล ถือหุ้น 266 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 10.64% ภายหลังขาย IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 8.90% บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภท