กระทรวงพลังงานเตรียมเรียกประชุมคณะทำงานด้านการบริหารเชื้อเพลิง เพื่อหามาตรการรองรับและแก้ไขปัญหากรณีที่ ปตท.ไม่สามารถส่งมอบก๊าซธรรมชาติที่จะนำใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเรียกประชุมคณะทำงานด้านการบริหารเชื้อเพลิง เพื่อหามาตรการรองรับและแก้ไขปัญหากรณีที่ บมจ.ปตท.(PTT)ไม่สามารถส่งมอบก๊าซธรรมชาติที่จะนำใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยจะเร่งรัดให้ PTT เร่งจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้ได้ 330 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ |
. |
เนื่องจากการส่งมอบก๊าซธรรมชาติในแหล่งพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย(JDA)ให้แก่โรงไฟฟ้าจะนะล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้ออกไปอีก 1 เดือน จึงต้องนำน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตามาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน โดยตามแผนงานจะต้องส่งมอบก๊าซธรรมชาติให้วันละ 440 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน แต่ปัจจุบันส่งมอบได้เพียงวันละ 100 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน |
. |
นอกจากนี้ การส่งมอบก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอาทิตย์ก็มีความล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้เช่นกัน จากเดิมที่จะต้องส่งมอบก๊าซธรรมชาติจำนวน 160 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันสามารถส่งมอบได้เพียง 80-90 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันเท่านั้น เนื่องจากตรวจพบความผิดพลาดของระบบท่อส่งก๊าซ |
. |
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าแต่การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นอาจส่งผลให้ค่าไฟฟ้าผันแปร(เอฟที)ในรอบต่อไป(มิ.ย.-ก.ย.51)จะปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก โดยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 1 บาท/ดอลลาร์จะทำให้ค่าเอฟทีลดลง 3 สตางค์/หน่วย ซึ่งขณะนี้ค่าเงินบาทมีส่วนต่างจากที่คาดการณ์ไว้ 2 บาท ซึ่งสามารถนำไปชดเชยต้นทุนจากเชื้อเพลิงได้ |