เนื้อหาวันที่ : 2008-03-21 09:23:37 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2239 views

ซีลวาเนีย บุกมาเลเซียและเวียดนาม ประกาศลดปัญหาภาวะโลกร้อน

ซีลวาเนีย บุกตลาดต่างประเทศ ประเดิมตั้ง Trading Company แห่งแรกที่มาเลเซียในไตรมาส 2 ตามด้วยเวียดนามในปีหน้า พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ดูแลการขายของผลิตภัณฑ์แสงสว่างซีลวาเนีย 12 แห่ง ในอาเซียน

ซีลวาเนีย บุกตลาดต่างประเทศ ประเดิมตั้ง Trading Company แห่งแรกที่มาเลเซียในไตรมาส 2 ตามด้วยเวียดนามในปีหน้า พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ดูแลการขายของผลิตภัณฑ์แสงสว่างซีลวาเนีย 12 แห่ง ในอาเซียน ด้านตลาดในประเทศยังรุกไม่หยุด ประกาศขอก้าวเป็นผู้นำด้านไลทติ้ง โซลูชั่น ที่มีสินค้าประหยัดพลังงานเพื่อการใช้งานแสงสว่างอย่างมีประสิทธิภาพครบไลน์มากที่สุด พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เพื่อรณรงค์ให้คนไทยหันมาใช้หลอดประหยัดไฟเพื่อลดภาวะโลกร้อน ออนแอร์ 17 มีนาคมนี้

.

นายปูมเทพ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮาเวลส์ ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและ จำหน่ายหลอดไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบการส่องสว่างภายใต้แบรนด์ซีลวาเนีย กล่าวว่า ขณะนี้ ฮาเวลส์ ซีลวาเนีย ประเทศไทย ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทแม่ให้ทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ดูแลการขายของสินค้าภายใต้แบรนด์ซีลวาเนียในภูมิภาคอาเซียน

.

ซึ่งประกอบด้วย ไทย ลาว พม่า กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เนปาล เวียดนาม บรูไน และศรีลังกา ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารงานต่าง ๆ ให้เป็นอินเตอร์เนชั่นแนลมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวไปยังต่างประเทศได้ และยังมีแผนที่จะเปิดสำนักงานและโชว์รูมขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ หลังจากนั้น จะปรับสำนักงานขาย ที่ประเทศเวียดนามให้เป็น Trading Company ประมาณปี 2552 นับว่าเป็นการประกาศรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง

.

ส่วนตลาดในประเทศ ฮาเวลส์ ซีลวาเนีย ยังคงบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ชำนาญการระบบแสงสว่างสำหรับการลดปัญหาภาวะโลกร้อน หรือ Lighting Solution Provider for Global Warming Relief อย่างจริงจัง โดยนอกเหนือจากการมีหลอดไฟ โคมไฟ และอุปกรณ์ประกอบการส่องสว่างต่างๆ อย่างครบไลน์มากที่สุดแล้ว ยังสามารถให้คำปรึกษาด้านการใช้งานผลิตภัณฑ์ และการวางระบบแสงสว่างอย่างเชี่ยวชาญ ด้วยโปรแกรมช่วยออกแบบแสงอัจฉริยะ ที่ช่วยคำนวณค่าความสว่างของทุกการใช้งานให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และแม่นยำ

.

"เมื่อเร็ว ๆ นี้ Sylvania Lighting International ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร โดยมีบริษัท ฮาเวลส์ (อินเดีย) จำกัด เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ ซึ่งฮาเวลส์นับเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าประเภท Non-lighting เช่น สวิทช์เกียร์ สายไฟ พัดลม รายใหญ่ที่สุดในอินเดีย ส่งผลให้ฮาเวลส์ ซีลวาเนีย มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และสามารถนำเสนอสินค้าและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแสงสว่าง และไฟฟ้าได้ทั้งระบบ จากเดิมที่มีเพียงผลิตภัณฑ์แสงสว่างแต่เพียงอย่างเดียว" นายปูมเทพ กล่าว

.

สำหรับแนวทางการตลาดในปีนี้ นายปูมเทพ กล่าวว่า จะเน้นคอนเซ็ปต์เรื่องการลดปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นหลัก เนื่องจากหลอดไฟเป็นหนึ่งในสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานอันดับต้นๆ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้จัดกิจกรรมเพื่อลดการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง เช่น จัดกิจกรรม ซีลวาเนีย เคลียร์โลกร้อน กับโฮมโปร การเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ 1 องศา รวมพลังคนไทยต้านภัยโลกร้อน ซึ่งฮาเวลส์ ซีลวาเนีย ได้ร่วมบริจาคหลอดประหยัดไฟให้กับชุมชนต่าง ๆ ที่ยากจนทั่วประเทศ รวมทั้งมีทีมที่จะไปออกโรดโชว์

.

เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการเลือกใช้งานหลอดไฟ โคมไฟ แต่ละประเภทได้อย่างถูกต้อง และล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ชื่อ น้ำท่วมบ้าน หรือ Water World เพื่อชี้ให้ผู้บริโภคเห็นถึงผลกระทบของปัญหาภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันรวมทั้งการตอกย้ำแนวคิดการเปลี่ยนมาใช้หลอดประหยัดไฟซีลวาเนียเพื่อช่วยลดความร้อนของโลกลงด้วย โดยใช้งบประมาณในการผลิตและซื้อสื่อโฆษณากว่า 25 ล้านบาท ซึ่งโฆษณาชุด น้ำท่วมบ้าน จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 17 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป

.

นายปูมเทพ กล่าวเพิ่มเติมถึงผลดำเนินงานของ ฮาเวลส์ซีลวาเนีย ในปี 2550 ที่ผ่านมาว่า มียอดขายประมาณ 700 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2549 17% คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 15% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 90% ยอดส่งออก 10% ซึ่งการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความสำเร็จในการทำตลาดขายส่งและตลาดโครงการ โดยฮาเวลส์ ซีลวาเนีย

.

มีการจัดระบบการจัดจำหน่ายใหม่โดยการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายหลักสำหรับตลาดขายส่งอย่างเป็นทางการ (Master Wholesale) ซึ่งขายเฉพาะสินค้าของซีลวาเนียเพียงแบรนด์เดียว เพื่อเจาะตลาดขายส่งโดยเฉพาะ นับเป็นการสร้างความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายของการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องในตลาดนี้ สำหรับเป้าหมายในปี 2551 คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มเป็น 900 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 30% โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นบางส่วนจะมาจากตลาดต่างประเทศในอาเซียน