เนื้อหาวันที่ : 2008-03-14 15:43:01 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2214 views

ปตท.-ไทยออยล์ เดินหน้าผลิตดีเซลมาตรฐานยูโรโฟร์รายแรกของประเทศ

ปตท. และไทยออยล์ ร่วมกันปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซล ก้าวสู่มาตรฐานยูโรโฟร์ (Euro IV) ได้เป็นรายแรกของประเทศ นับเป็นอีกความก้าวหน้าของเชื้อเพลิง ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการกลั่นและยานยนต์ไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล ดังเช่นหลายประเทศทั่วโลก

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซล ก้าวสู่มาตรฐานยูโรโฟร์ (Euro IV) ได้เป็นรายแรกของประเทศ  นับเป็นอีกความก้าวหน้าของเชื้อเพลิง และช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการกลั่นและยานยนต์ไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล ดังเช่นหลายประเทศทั่วโลก

.

บ่ายวันนี้ (14 มีนาคม 2551) พลโท หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานในพิธีแถลงข่าว การผลิตและจำหน่ายน้ำมันดีเซลมาตรฐาน     ยูโรโฟร์ (Euro IV) รายแรกของประเทศ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)  และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)  เพื่อช่วยกันดูแลสังคมให้สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมดียิ่งขึ้น

.

พลโท หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า นอกจากกระทรวงพลังงานจะมีนโยบายในการดูแลพลังงานของประเทศให้มีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมพลังงานทดแทน ซึ่งมีส่วนช่วยลดปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อม ล่าสุด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซล ก้าวสู่มาตรฐานยูโรโฟร์ (Euro IV) ได้เป็นรายแรกของประเทศ 

.

ซึ่งนอกจากสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพลังงานแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง ในการมอบสิ่งทีดีแก่ประชาชน สังคม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะได้มีการปรับปรุงกระบวนการผลิต ก่อนหน้าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ (ในปี 2555) ล่วงหน้าถึง 4 ปี ขณะเดียวกัน ยังสอดคล้องกับนวัตกรรมใหม่ๆ ของยานยนต์ที่มุ่งเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นกันด้วย นับเป็นอีกความก้าวหน้าของเชื้อเพลิง และช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการกลั่นและยานยนต์ไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล ดังเช่นหลายประเทศทั่วโลก

.

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ ปตท. เป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม จึงเป็นผู้นำในการออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเสมอมานับตั้งแต่ น้ำมันไร้สารตะกั่ว น้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำช่วยลดปริมาณสารซัลเฟอร์ในอากาศ

.

รวมทั้งผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงทางเลือก อาทิ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ น้ำมันไบโอดีเซล และเอ็นจีวี เป็นต้น และล่าสุด ปตท. และบริษัทไทยออยล์ฯ ได้ร่วมกันปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำมันดีเซลจากมาตรฐาน Euro III มาเป็น  Euro IV เป็นรายแรกของประเทศ ซึ่งจะทำให้น้ำมันดีเซล(B2) และน้ำมันไบโอดีเซล PTT B5 Plus Euro IV มีปริมาณกำมะถันในน้ำมันต่ำกว่า 50 PPM หรือ 0.005% ลดลง 7 เท่า จากดีเซลปัจจุบัน โดยสามารถผลิตได้ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ถึง 4 ปี  (1มกราคม 2555)

.

สำหรับมาตรฐาน Euro IV (European Emission Standards) เป็นมาตรฐานควบคุมการปล่อยมลพิษของรถยนต์ใหม่ที่จำหน่ายในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งมีมาตรฐานที่สูงในแต่ละระดับ ส่งผลให้ประชาชนมีสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น ลดค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น ซึ่งระดับมลพิษที่มีการควบคุมตามมาตรฐานยูโร ได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์  ไฮโดรคาร์บอน  ไนโตรเจนออกไซด์  ฝุ่นละอองขนาดเล็ก และฝุ่นควัน

.

นายประเสริฐ กล่าวว่า ในเบื้องต้น ปตท. จะรับน้ำมันดีเซลมาตรฐาน Euro IV จากโรงกลั่นไทยออยล์ ประมาณเดือนละ 320 ล้านลิตรต่อเดือน หรือ 70% ของกำลังผลิตดีเซลที่โรงกลั่นไทยออยล์ผลิตได้ และจะใช้คลังน้ำมันพระโขนงเป็นคลังแห่งแรกที่ผสมน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว(B2) และน้ำมันไบโอดีเซล PTT B5 Plus Euro IV รายแรกของประเทศ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

.

โดยจะจำหน่ายให้แก่ทางรถประจำทางของ ขสมก. และประชาชนทั่วไป ผ่านสถานี  บริการน้ำมัน ปตท. ในเขต กทม.และปริมณฑล ประมาณ 100 สถานี  ก่อน ในราคาเท่าเดิม (ราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลโดยทั่วไปถึง 50 สตางค์/ลิตร) เพื่อช่วยลดปัญหามลภาวะในอากาศ และภาวะโลกร้อน สำหรับในส่วนภูมิภาคนั้นจะทยอยการให้บริการต่อไป

.

นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า "ไทยออยล์ ประสบความสำเร็จในการผลิตน้ำมันดีเซล Euro IV เร็วกว่าข้อกำหนดของภาครัฐถึง 4 ปี โดยใช้ศักยภาพของโรงกลั่นที่มีเทคโนโลยีระดับมาตรฐานโลก โดยโรงกลั่นไทยออยล์สามารถผลิตน้ำมันดีเซล Euro IV ได้ทั้งโรงกลั่น เนื่องจากหน่วยกลั่นต่างๆ ของไทยออยล์มีศักยภาพในการผลิตอยู่แล้ว เพียงแต่ปรับสภาพการทำงานของกระบวนการผลิตเพียงบางส่วน

.

โดยเฉพาะการเร่งปฏิกิริยาในหน่วยลดกำมะถัน บริษัทฯ สามารถผลิตน้ำมันดีเซล Euro IV ได้ประมาณ 400-500 ล้านลิตร/เดือน จากหน่วยขจัดกำมะถันในน้ำมันดีเซล (HDS) 2 หน่วย และ หน่วยไฮโดรแครกเกอร์ 2 หน่วย  โดยที่น้ำมันดีเซล Euro IV มีส่วนผสมเหมือนกับน้ำมันดีเซล Euro III ที่ใช้กันอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน เพียงแต่ลดปริมาณกำมะถันและปริมาณสารที่ก่อให้เกิดเขม่าควันดำลง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ และสามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกรุ่นโดยไม่จำเป็นต้องมีการปรับแต่งเครื่องยนต์ก่อนการใช้น้ำมันดังกล่าว และจากการที่น้ำมันดีเซล Euro IV มีปริมาณ     ซีเทนเพิ่มขึ้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเครื่องของเครื่องยนต์ดีเซลอีกด้วย"   

.

นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่าในส่วนของ ขสมก. นอกจากภารกิจที่มุ่งเน้นในการให้การบริการประชาชน โดยการปรับปรุงเส้นทางเดินรถ และการให้บริการแล้ว ยังมุ่งเน้นเลือกใช้เชื้อเพลิงที่มีคุณภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และลดต้นทุน โดยเฉพาะน้ำมันไบโอดีเซล PTT B5 Plus Euro IV  นั้น จะนำไปใช้กับรถประจำทางของ ขสมก. ทั้งหมดประมาณกว่า 3,000 คัน ซึ่งนอกจากจะเป็นพลังงานทดแทนที่มีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลทั่วไปแล้ว ปริมาณกำมะถันที่ลดลง และค่าซีเทนที่สูงขึ้นของน้ำมัน จะช่วยให้เครื่องยนต์มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ และช่วยลดมลพิษของไอเสียที่ปล่อยออกมาจากรถของ ขสมก. ลงได้อีกด้วย