เนื้อหาวันที่ : 2008-02-22 15:59:05 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1606 views

คลัง เดินหน้าพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ลดผลกระทบน้ำมันแพง

"นพ.สุรพงษ์"เดินหน้าพัฒนาระบบโลจิสติกส์ หวังลดผลกระทบราคาน้ำมันแพง ย้ำรักษาวินัยการเงินการคลัง ลงทุนเมกะโปรเจกต์ คาดได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือน เน้นพัฒนาระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือรัฐบาลอิเล็กทรอนิสก์ เพื่อให้มีการติดต่อสะดวกในการติดต่อค้าขาย

"นพ.สุรพงษ์" เดินหน้าพัฒนาระบบโลจิสติกส์ หวังลดผลกระทบราคาน้ำมันแพง ย้ำรักษาวินัยการเงินการคลัง ลงทุนเมกะโปรเจกต์ คาดได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือน เน้นพัฒนาระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือรัฐบาลอิเล็กทรอนิสก์ เพื่อให้มีการติดต่อสะดวกในการติดต่อค้าขาย

.

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจะยังคงเน้นพัฒนาระบบโลจิสติสก์ เพื่อลดต้นทุนด้านการขนส่ง เนื่องจากราคาน้ำมันเป็นปัจจัยภายนอกไม่สามารถควบคุมได้ หากพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ให้มีความพร้อม จะลดจำนวนเที่ยวการการขนส่ง ก็จะไม่กระทบต่อราคาสินค้า ทั้งนี้ เห็นได้จากญี่ปุ่นที่ลงทุนพัฒนาระบบขนส่ง เมื่อราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลง จึงไม่กระทบต่อการขนส่งสินค้าหรือกระทบน้อยมาก

.

นอกจากนี้ รัฐบาลเน้นพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งด้วยการใช้ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือรัฐบาลอิเล็กทรอนิสก์ เพื่อให้มีการติดต่อสะดวกในการติดต่อค้าขาย

.

นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ที่รัฐบาลประกาศไว้ เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟรางคู่ รถไฟชานเมือง และระบบรถไฟแบบก้างปลา ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 1.34 แสน ล้านบาท โดยรัฐจะพยายามไม่ให้มีการก่อหนี้เกิน 50 %ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) โดยในช่วง 1-2 เดือนนี้รัฐบาลจะเร่งสรุปโครงการที่ประกาศไว้ เพื่อเดินหน้าก่อสร้าง เพราะยอมรับว่าโครงการที่เสนอมามีจำนวนมาก จึงต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าและผลที่ได้รับจากการลงทุน ไม่ใช่ก่อสร้างทั้งหมด

.

นอกจากนี้ จะเร่งสรุปแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในการก่อสร้าง ที่จะมีทั้งเงินออมในประเทศ เงินกู้ต่างประเทศ เงินงบประมาณ รวมถึงแนวทางการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน

.

รมว.คลังกล่าวอีกว่า นอกจากโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านสาธารณูปโภคแล้วรัฐยังต้องการเน้นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ด้านการศึกษาและสาธารณสุข เพื่อเน้นพัฒนาคน เพราะประเทศจะเติบโตได้ดีต้องขึ้นอยู่กับคน ดังนั้น ในด้านการศึกษาจึงต้องลงทุนด้านไอซีที เพื่อรองรับการศึกษาทั้งในและนอกโรงเรียนให้เด็กมีความรู้อย่างทั่วถึง ขณะที่การลงทุนด้านโครงการสาธารณสุขจะเน้นการเพิ่มโรงพยาบาลศูนย์เฉพาะทางทั่วประเทศ เพื่อมีระบบการักษาอย่างทั่วถึง

.

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์