รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เผยความคืบหน้าเรื่องนโยบายการกันสำรอง 30% จะตัดสินใจโดยเร็วที่สุดโดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอข้อมูล ธปท. และต้องใช้แนวทางขาดงบดุลงบประมาณ หวังใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดทำงบประมาณกลางปี 51 ซึ่งเห็นว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องใช้แนวทางเฉพาะเพิ่มการขาดงบดุลงบประมาณเท่านั้น เนื่องจากยังมีประมาณที่ค้างอยู่อีกจำนวนมากที่ส่วนราชการสามารถนำออกมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งรวมถึงงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ที่ยังไม่ได้นำออกไปใช้ตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ |
. |
ทั้งนี้ได้สั่งการให้กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กลับไปศึกษารายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับงบประมาณที่ส่วนราชการเบิกจ่ายจากคลังไปแล้วแต่ยังไม่ได้นำไปใช้จ่ายตามโครงการ โดยเบื้องต้นกรมบัญชีกลางได้รายงานตัวเลขมาค่อนข้างสูง ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนได้จึงต้องการให้สำรวจตัวเลขให้ชัดเจนมากกว่านี้ |
. |
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า หากส่วนราชการและหน่วยงานอื่นไม่สามารถใช้เงินได้ตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดก็ต้องเรียกงบประมาณที่ได้รับไปทั้งหมดกลับคืน รวมทั้งต้องตัดงบประมาณในปี 52 เพื่อกลับไปใช้งบเก่าให้หมดเสียก่อน |
. |
โดยล่าสุดในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 51 (ต.ค.50-ม.ค.51) ส่วนราชการเบิกจ่ายไปแล้วจำนวน 551,676 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณปี 51 จำนวน 504,812 ล้านบาท และงบประมาณปี 50 46,864 ล้านบาท |
. |
รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ยังกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องนโยบายการกันสำรอง 30% ด้วยว่าจะตัดสินใจโดยเร็วที่สุดโดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่นำไปสู่การปลดนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าฯ ธปท. แน่นอน เพราะยังสามารถทำงานร่วมกันได้ดี |