เนื้อหาวันที่ : 2008-02-19 14:41:38 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1725 views

ทาทา กรุ๊ป รุกลงทุนพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อรองรับทุกอุตสาหกรรม

"ทาทา กรุ๊ป" ยักษ์ใหญ่จากอินเดีย รุกธุรกิจซอฟต์แวร์ในไทย ส่งบริษัทลูก TCS ผู้ให้บริการ IT services รายใหญ่ติด 1 ใน 10 ของโลก ลงทุนพัฒนาและให้บริการธุรกิจซอฟต์แวร์เพื่อป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม

.

ทาทา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่จากอินเดีย รุกธุรกิจซอฟต์แวร์ในไทย ส่งบริษัทลูก TCS ผู้ให้บริการ IT services รายใหญ่ติด 1 ใน 10 ของโลก ลงทุนพัฒนาและให้บริการธุรกิจซอฟต์แวร์เพื่อป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม

.

นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะทำงานพิจารณาโครงการได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนกิจการซอฟต์แวร์แก่ บริษัท Tata Consultancy Services Asia Pacific จำกัด (TCS) ซึ่งเป็น บริษัทลูกของ Tata group แห่งประเทศอินเดีย และเป็นบริษัทที่ให้บริการทางด้าน IT services ที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก เพื่อเข้ามาพัฒนาและผลิตซอฟต์แวร์ในประเทศไทย เงินลงทุน 32 ล้านบาท

.

รูปแบบการพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทจะมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการใช้ในการบริหาร และจัดการองค์กร ครอบคลุมหลายธุรกิจ เช่น ธนาคารพาณิชย์ โรงงาน โทรคมนาคม และกลุ่ม งานเอนิเมชั่น เป็นต้น โดยจะจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ "กิจการซอฟต์แวร์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่บีโอไอต้องการเน้นให้เกิดการลงทุน เพิ่มมากขึ้น แม้จะมีมูลค่าเงินลงทุนไม่สูงนัก แต่จะช่วยพัฒนาศักยภาพธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านซอฟต์แวร์ในประเทศด้วย ซึ่งตามแผนของบริษัทจะเพิ่มสัดส่วนการจ้างงานคนไทยไม่ต่ำกว่า 144 คนภายใน 3 ปี " นายสาธิต กล่าว

.

สำหรับกิจการซอฟต์แวร์เป็นกิจการที่บีโอไอ จัดให้เป็นกิจการที่มีความสำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศเป็นพิเศษ โดยได้รับสิทธิประโยชน์ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรทุกเขตที่ตั้ง ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี โดยไม่กำหนดสัดส่วนการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

.

ทั้งนี้กลุ่มบริษัท ทาทา เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่จากประเทศอินเดีย ปัจจุบันเข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทยแล้วหลายโครงการ ได้แก่ กิจการประกอบรถปิกอัพขนาด 1 ตัน เงินลงทุนประมาณ 1,302 ล้านบาท และกิจการผลิตเหล็กขั้นต้น และกิจการเหล็กขั้นกลาง มูลค่าเงินลงทุน 3,900 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้ยื่นขอรับส่งเสริมในกิจการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 7,300 ล้านบาทด้วย