อาสาสมัครกรีนพีซแขวนป้ายผ้าบนแทงค์เก็บน้ำประปาบาดาลของหมู่บ้านหนองเป็ด ซึ่งอยู่บริเวณติดกับนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือจังหวัดลำพูน โดยใช้ข้อความ "สารพิษ (Toxic)" พร้อมด้วยรายละเอียดของสารมลพิษที่ตรวจพบเพื่อเตือนถึงการปนเปื้อนและอธิบายถึงอันตรายของสารมลพิษให้ชุมชนได้ทราบ ในขณะเดียวกันชาวบ้านชุมชนบ้านหนองเป็ดรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการปกป้องน้ำใต้ดินของตนซึ่งเป็นแหล่งน้ำแหล่งเดียวที่ชุมชนใช้อุปโภคบริโภค

"ประเด็นการปนเปื้อนของสารมลพิษในแหล่งน้ำใต้ดินเป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากจะส่งผลต่อสุขภาพของคนในชุมชนที่อาศัยน้ำบาดาลจากแหล่งนี้เพื่อการอุปโภคบริโภค และเป็นการทำลายแหล่งทรัพยากรอันมีค่าอย่างถาวร ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องรีบเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามไปมากกว่านี้" พลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว

รายงานการตรวจสอบตัวอย่างน้ำบริเวณรอบแหล่งอุตสาหกรรมล่าสุดของกรีนพีซ พบว่ามีการปนเปื้อนของตะกั่ว ทองแดง และ สังกะสีที่แหล่งน้ำประปาบาดาลบริเวณบ้านหนองเป็ดในปริมาณสูงกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในมาตรฐานน้ำดื่มของไทย  โดยพบปริมาณสารตะกั่วและทองแดงสูงกว่ามาตรฐาน 4 เท่า และสังกะสีสูงกว่ามาตรฐานถึง 8 เท่า

ทั้งนี้สารตะกั่วเป็นสารมลพิษที่อันตรายต่อมนุษย์โดยจะส่งผลกระทบต่อเลือด ไต ระบบประสาท และ ระบบสืบพันธุ์ รวมทั้งยังส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านสติปัญญาในเด็ก ทองแดงในปริมาณสูงสามารถทำลายไตและตับ ส่วนสังกะสีที่มีปริมาณมากในร่างกายจะทำให้ร่างกายขาดความสามารถในการดูดซึมวิตามินบางชนิดได้

ในกิจกรรมเรียกร้องเพื่อแหล่งน้ำสะอาดครั้งนี้ กรีนพีซและชุมชนบ้านหนองเป็ดได้เชิญตัวแทนจากกรมควบคุมมลพิษมาร่วมตรวจสอบหาสาเหตุและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งเร่งผลักดันออกมาตรการปกป้องแหล่งน้ำบาดาลเป็นการด่วน  นอกจากนี้ยังได้มอบตัวอย่างน้ำที่เก็บจากน้ำใต้ดินในหมู่บ้านให้กรมควบคุมมลพิษนำไปตรวจสอบอีกครั้งให้แน่ชัดและเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับทราบ

กรีนพีซยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งจัดการปัญหาการปนเปื้อนของสารมลพิษโดยด่วน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งเน้นเพียงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นส่งเสริมขยายการลงทุนภาคอุตสาหกรรมโดยไม่เน้นการพัฒนาและบังคับใช้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและแผนการเชิงรุกที่เป็นรูปธรรมในการป้องกันผลกระทบจากมลพิษที่ควบคู่กัน

สารมลพิษปนเปื้อนที่พบในน้ำใต้ดินของบ้านหนองเป็ดนั้นเป็นสารอันตรายที่สามารถตกค้างยาวนานในสิ่งแวดล้อมและสะสมทวีคูณในระบบนิเวศน์รวมถึงห่วงโซ่อาหารได้ ซึ่งท้ายที่สุดกลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์จากการบริโภคแหล่งน้ำนั้น การมุ่งเน้นใช้มาตรฐานควบคุมปริมาณสารพิษในน้ำทิ้งเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ กรีนพีซจึงออกมาชี้เตือนปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนหันมาใส่ใจในปัญหามลภาวะทางน้ำที่ประเทศไทยกำลังประสบ  

"กรณีนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแหล่งน้ำของเรากำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต คุณภาพของน้ำสะอาดค่อยๆ ลดลงไปเนื่องจากกฎหมายปัจจุบันมีเพียงมาตรฐานควบคุมปริมาณสารพิษในน้ำทิ้ง ซึ่งไม่ใช่มาตรการป้องกันที่เข้มแข็งพอ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือการมีกระบวนการผลิตที่สะอาดและปราศจากสารมลพิษอันตราย” พลาย ภิรมย์กล่าวเพิ่มเติม

ที่มา : กรีนพีซ