เนื้อหาวันที่ : 2008-02-08 10:52:59 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1579 views

สันติ รมว.คมนาคม เข้ารับตำแหน่งใหม่ สั่งตรึงค่ารถเมล์-บขส.

พร้อมเดินหน้านโยบายด้านการขนส่งมวลชน และขนส่งทางรางที่ต้องเร่งดำเนินการทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยืนยันว่าจะไม่มีการรื้อหรือยกเลิกโครงการใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมกับ ผู้บริหารหน่วยงาน พร้อมด้วยนายอนุรักษ์ จุรีมาศ และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ว่า เรื่องเร่งด่วนอันดับแรก คือ นโยบายด้านการขนส่งมวลชน และขนส่งทางรางที่ต้องเร่งดำเนินการทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 

.
ยืนยันว่าจะไม่มีการรื้อหรือยกเลิกโครงการใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน 100% กระทรวงพร้อมดำเนินการต่อไปให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยไม่สนใจว่าโครงการดังกล่าวเป็นของพรรคประชาธิปัตย์หรือรัฐบาลใด
 .

"จากการรับฟังเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้า พบว่าเส้นทางที่มีความพร้อมมากที่สุดคือสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ ซึ่งจะหารือในรายละเอียดร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าเส้นทางรถไฟฟ้าทั้ง 9 สายที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้เกิดขึ้นนั้นไม่ได้แตกต่างกับเส้นทางที่สนข.ทำไว้เดิม แต่อาจมีการเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อยเท่านั้น"นายสันติ กล่าว

 .

นายสันติ ยังกล่าวถึงนโยบายการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่จะปรับในวันที่ 1 มี.ค ส่วนบริษัท ขนส่ง จำกัด จะปรับวันที่ 15 ก.พ. นี้ว่า เบื้องต้นเห็นว่าต้องมีการตรึงราคาค่าโดยสารไปก่อนจนกว่าจะมีการหารือกันทั้งสองหน่วยงาน เข้าใจดีว่าราคาน้ำมันเป็นต้นทุนที่สำคัญ แต่ต้องเห็นใจประชาชนที่ต้องรับภาระค่าโดยสาร

 .
ด้านนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ฝ่ายบริหารของขสมก.จะเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อแจ้งนโยบายให้ทราบและออกมติในเรื่องการตรึงราคาต่อไป แต่การตรึงราคาออกไปจะส่งผลให้ขสมก.เสียโอกาสที่จะมีรายได้ 35 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ขสมก.ตรึงราคามาแล้วตั้งเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
 .

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้จัดการใหญ่บ.ข.ส. กล่าวว่า บ.ข.ส.จะทำหนังสือเวียนเพื่อแจ้งให้คณะกรรมการทราบถึงนโยบาย ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลภาพรวมเศรษฐกิจประเทศและลดต้นทุนค่าโดยสารของประชาชน แต่ยอมรับว่าการตรึงค่าโดยสารจะส่งผลให้เสียโอกาสมีรายได้เพิ่ม 20% ต่อปี

.
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์