เนื้อหาวันที่ : 2008-01-31 17:15:07 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2408 views

นักวิชาการสับ! นโยบายเศรษฐกิจพรรคการเมือง ขายฝันไม่รู้แหล่งที่มาเงิน

ศักยภาพควรจะเติบโตได้ 6% แต่ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าศักยภาพ 2% นับเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท เป็นการสูญเสียรายได้ที่จะมาพัฒนาประเทศและแก้ปัญหาความยากจน การลงทุนการบริโภคต่ำกว่าในอดีตค่อนข้างมาก เศรษฐกิจไทยยังมีความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท ซึ่งไทยอยู่ในกลุ่มที่แย่ที่สุดในเอเชีย นักวิชาการสับโยบายเศรษฐกิจพรรคการเมือง แค่ขายฝันหากินในระยะสั้น โหมโรง"นโยบายประชานิยม"แต่ไม่รู้แหล่งที่มาของรายได้ แนะเร่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำรายได้ของประชาชน

นักวิชาการสับโยบายเศรษฐกิจพรรคการเมือง แค่ขายฝันหากินในระยะสั้น โหมโรง"นโยบายประชานิยม"แต่ไม่รู้แหล่งที่มาของรายได้ แนะเร่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำรายได้ของประชาชน

.

นายนิพนธ์ พัวพงศกร คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในเวทีเสวนา หัวข้อ "เวทีติดดาวนโยบายเศรษฐกิจพรรคการเมือง"ว่า นโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองในด้านเศรษฐกิจต้องสามารถตอบโจทย์แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ได้คือ เศรษฐกิจไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเติบโตช้ากว่าศักยภาพ"

.

โดยศักยภาพควรจะเติบโตได้ 6% แต่ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าศักยภาพ 2% นับเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท เป็นการสูญเสียรายได้ที่จะมาพัฒนาประเทศและแก้ปัญหาความยากจน การลงทุนการบริโภคต่ำกว่าในอดีตค่อนข้างมาก นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท ซึ่งไทยอยู่ในกลุ่มที่แย่ที่สุดในเอเชีย

.

สำหรับนโยบายของ 6 พรรคการเมืองใหญ่ที่ใช้หาเสียง ประกอบด้วย พรรคชาติไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชาชน เพื่อแผ่นดิน มัชฌิมาธิปไตย และรวมใจไทยชาติพัฒนา จากการพิจารณาแล้วพบว่านโยบายจะเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ส่วนใหญ่ไม่ทราบแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ เพียงขายความน่าเชื่อถือและปิดบังจุดอ่อน

.

ส่วนนโยบายด้านความยากจน พรรคการเมืองส่วนใหญ่เน้นแก้ปัญหาปวดหัว ตัวร้อน โดยไม่สนใจสาเหตุพื้นฐานความยากจน และไม่มีพรรคใดที่จะมีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนและคนรวย จึงไม่เห็นพรรคใดมีนโยบายจัดเก็บภาษีที่ดิน ภาษีมรดก หรือขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และไม่มีพรรคใดมีวิสัยทัศน์ชัดเจนว่าจะให้ระบบเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างไร นโยบายเขียนเอาใจบางกลุ่ม

.

หากพิจารณาด้านวินัยการเงินการคลัง พบว่ามีเพียง 2 พรรคที่ระมัดระวังคือ พรรคประชาธิปัตย์กับรวมใจไทยชาติพัฒนา อย่างไรก็ตาม ทุกพรรคไม่กล้าพูดเรื่องการขึ้นภาษี ซึ่งหมายความว่าแหล่งเงินที่จะนำมาใช้จะมาจากการกู้หรือหารายได้จากอบายมุข

.

ส่วนด้านการศึกษานั้น พรรคการเมืองเน้นให้ทุนการศึกษา แต่ไม่พูดถึงคุณภาพการศึกษา ขณะที่งบประมาณของภาคการศึกษาไทยค่อนข้างสูง คิดเป็นร้อยละ 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

.

คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอแนะว่า แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยคือ ทบทวนกฎหมายที่ทำลายความมั่นใจการลงทุนบริหารความขัดแย้งจากการดำเนินนโยบายด้วยระบบธรรมาภิบาลว่าจะทำอย่างไร สร้างความมั่นคงด้านพลังงานลดการแทรกแซงตลาด

.

แต่ขณะนี้หลายพรรคมีแนวโน้มแทรกแซงตลาดสินค้าเกษตร ต้องยึดมั่นพันธสัญญาของรัฐ ลดต้นทุนทำธุรกิจของเอกชน มีนโยบายการพัฒนาที่ลดการเหลื่อมล้ำคนจนกับคนรวย เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย

.

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์